เหตุใดจึงควรฉีดท็อกซินรักษาไมเกรนกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองเท่านั้น
- ถึงแม้ว่าตัวยาโบทูลินั่มทอกซินจะใช้กันอย่างแพร่หลาย ในกลุ่มแพทย์ความงาม แต่การใช้ยาต่างกับการฉีดเพื่อรักษาไมเกรนอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น การผสมยา ปริมาณยารวม ตำแหน่งที่ฉีด และวิธีการฉีด ถ้าไม่ใช่แพทย์เฉพาะทางนอกจากจะได้ผลไม่ดีแล้ว ยังอาจเกิดผลข้างเคียงได้
- เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าตัวยาโบทูลินั่มทอกซินจัดเป็นสารพิษออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท มีผลทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตชั่วคราว ดังนั้นในการนำมาใช้ควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมทั้งการฉีดรักษาไมเกรนนั้นจะใช้ปริมาณยามากกว่าฉีดลดริ้วรอย ถึงสามเท่า ดังนั้นการฉีดท็อกซินรักษาไมเกรนควรทำโดยแพทย์เฉพาะทางด้านสมอง เพื่อให้ได้ผลเต็มที่ และเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด
มั่นใจกับการรักษาไมเกรนเรื้อรังที่ BTX migraine center
BTX migraine center ตรวจรักษาโดยนายแพทย์ปริญญ์ บุญชัด แพทย์เฉพาะทางด้านระบบประสาทและสมอง ( Neurologist ) ดังนั้นคนไข้จึงมั่นใจในคุณภาพการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญ
1. ตรวจรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางระบบประสาท Neurologist
สามารถบ่งบอกอาการและรักษาได้ละเอียดแม่นยำ และที่สำคัญที่สุดคือการฉีดท็อกซิน รักษาไมเกรน ต้องใช้แพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เท่านั้น
2. ค่าใช้จ่ายต่ำกว่าโรงพยาบาล
การรักษาไมเกรนนั้นมีค่าจ่ายที่สูง ไม่ว่าจะเป็นยาแก้ปวดรุ่นใหม่ๆ พวกวิตามิน ต่างๆ รวมไปถึงการรักษาด้วยการฉีดท็อกซิน ซึ่งการรักษาที่ BTX migraine center มีค่าใช้จ่ายที่เบากว่า 40% เมื่อเทียบกับโรงพยาบาลเอกชน
3. ลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการกินยาแก้ปวด
เพราะการฉีดท็อกซิน type A จะช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้อย่างมีนัยยะสำคัญ จึงสามารถลดอัตราการใช้ปริมาณยาแก้ปวดได้มากกว่า 70-90% จึงสามารถลดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ต่อตับ ไตและกระเพาะอาหาร ที่เกิดจากการใช้ยาแก้ปวดติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ
4.ตัวยาโบทอกซ์แท้ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ออกฤทธิ์การรักษาได้ตรงจุด
สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดศีรษะ และลดความถี่ของอาการปวดศีรษะ ได้มากกว่า 90% และยังพบว่าการฉีดท็อกซิน รักษาไมเกรนนั้นยังช่วยลดริ้วรอยที่บริเวณหน้าผากให้ลดน้อยลง ถือเป็นผลข้างเคียงที่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เข้ารับการรักษาอย่างมาก
สำหรับผู้ป่วยไมเกรนที่เรื้อรัง ปวดรุนแรง กินยาไม่ดีขึ้น มีผลข้างเคียงจากการกินยา ต้องหยุดเรียนหรือหยุดงานบ่อยๆ มีการรักษาวิธีใหม่เป็นทางเลือกเสริม คือการฉีดท็อกซินรักษาไมเกรน ที่สามารถคลายกล้ามเนื้อบริเวณบ่า ไหล่ และรอบศีรษะ ช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้มากกว่า 90% เป็นการรักษาที่มีงานวิจัยรองรับว่าได้ผลดี และใช้กันแพร่หลายทั่วโลก ลดการกินยาแก้ปวดและทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น สำคัญที่สุดคือต้องรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางระบบสมองที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น