พ่อแม่ควรรู้ เด็กปวดหัวอาจเป็นสัญญาณของไมเกรนในเด็ก

ไมเกรนในเด็ก

เด็กเป็นไมเกรนได้ไหม? รู้หรือไม่ว่า ในวัยเด็กก็สามารถเป็นโรคไมเกรนได้เช่นกัน ซึ่งอาการปวดหัวไมเกรนในเด็กนั้นจะมีลักษณะคล้ายกับอาการไมเกรนของผู้ใหญ่ โดยเด็กเป็นไมเกรนจะมีอาการปวดศีรษะข้างใดข้างหนึ่งอย่างรุนแรง หรือจะปวดบริเวณขมับและหน้าผากซึ่งจะปวดแบบตุบ ๆ และจะเป็น ๆ หาย ๆ แบบนี้อยู่เสมอ ในขณะเดียวกันสำหรับเด็กบางรายก็อาจจะปวดพร้อมกันทั้ง 2 ข้างได้ รวมไปถึงยังมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนร่วมด้วย ดังนั้น ผู้ปกครองจึงต้องหมั่นสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

สารบัญบทความ

ไมเกรนในเด็ก มีอาการอย่างไร

สัญญาณเตือนของอาการปวดหัวไมเกรนในเด็กนั้นเหมือนในผู้ใหญ่นั่นก็คือ รู้สึกตัวชา มือ เท้าอ่อนแรง การเห็นแสงวูบวาบเป็นเส้นซิกแซกประมาณ 5 นาทีก่อนอาการไมเกรนจะตามมา ซึ่งอาการปวดในแต่ละครั้งก็อาจจะมากกว่า 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยทั่วไปแล้วอาการปวดหัวไมเกรนในเด็กก็เหมือนกับในผู้ใหญ่ทุกประการ แต่จะมีอาการเวียนหัวและคลื่นไส้มากกว่าผู้ใหญ่ แต่ถ้าหากเมื่อไหร่ที่เด็กเป็นไมเกรนมีอาการเริ่มรุนแรงขึ้นจนทำให้ตื่นกลางดึก หรือมีอาการเดินเซ ซึม และหมดสติ ควรรีบนำตัวส่งแพทย์โดยทันที เพราะอาจจะกระทบกับการใช้ชีวิตในอนาคตได้

ไมเกรนเป็นได้ตั้งแต่อายุเท่าไร

ไมเกรนเป็นได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่? อาการปวดหัวไมเกรนสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงวัยชรา สำหรับไมเกรนในเด็กนั้นสามารถพบได้แต่ช่วงอายุ 4 ขวบขึ้นไป หรือตั้งแต่วัยอนุบาลเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุสำคัญมักจะเกิดมาจากพันธุกรรมนั่นเอง ถ้าหากสมาชิกในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นโรคไมเกรนมาก่อน เด็ก ๆ ก็จะมีโอกาสเป็นไมเกรนได้เช่นกัน

วิธีสังเกตเมื่อพ่อแม่เห็น ลูกปวดหัว 

  1. ลูกปวดหัวอย่างรุนแรง ลูกปวดหัวบ่อยครั้งทั้งที่ไม่มีปัญหาสุขภาพ หรือไม่มีปัญหาเกี่ยวกับสายตา
  2. ลูกปวดหัวไม่มีไข้ หรือไม่ได้มีอาการป่วยหลายวันก่อนหน้า
  3. ตื่นนอนกลางดึกบ่อย หรือมีอาการซึมร่วมด้วย
  4. มักจะมีอาการเดินเซ เดินแล้วล้ม กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือหมดสติ
  5. มักจะปวดบริเวณขมับหรือหน้าผากบ่อยครั้ง และมีอาการปวดนานกว่า 1 ชั่วโมง
  6. มักจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง
  7. เด็กบ่นว่ามองเห็นแสงเป็นสีดำซิกแซก หรือได้กลิ่นแปลกๆ บ่อยครั้ง 
  8. สมาชิกในครอบครัวมีประวัติเคยเป็นโรคไมเกรนมาก่อน

ปัจจัยที่ทำให้เกิด ไมเกรนในวัยเด็ก

ปัจจัยไมเกรนในเด็ก

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดไมเกรนในเด็ก

  • เกิดจากพันธุกรรม ถ้าหากสมาชิกในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นโรคไมเกรนมาก่อน เด็ก ๆ ก็จะมีโอกาสเป็นไมเกรนได้เช่นกัน
  • ไมเกรนเกิดจากเกิดจากปัจจัยภายนอกที่อาจกระตุ้นทำให้ปวดศีรษะ
  • เกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือดในสมองที่มากเกินไป
  • การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • เกิดจากความเครียดในวัยเด็ก เช่น เรื่องการเรียน การสอบ หรือทะเลาะกับเพื่อน 
  • รับประทานอาหารที่เสี่ยงต่อการกำเริบของไมเกรน เช่น ช็อคโกแลต ชีส เป็นต้น
  • อยู่ในสถานที่ที่มีเสียงดัง แสงจ้า หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่แออัด

ไมเกรนในวัยเด็ก พ่อแม่ควรดูแลอย่างไร

ดูแลเด็กเป็นไมเกรน

  • หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดจัดๆ หรือก่อนออกแดดทุกครั้งควรสวมหมวก แว่นตา หรือกางร่มด้วยเสมอ
  • งดให้ลูกรับประทานอาหารบางชนิดที่มีส่วนในการกระตุ้นไมเกรน เช่น ช็อคโกแลต ชีส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารที่มีสัตถุกันเสีย หรืออาหารแปรรูป 
  • หากมีอาการปวดหัวที่ไม่รุนแรงมาก ให้นอนพักในห้องแอร์หรือห้องที่มีอากาศถ่ายเทแล้วใช้น้ำแข็งค่อยๆ ประคบบริเวณศีรษะ จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้โดยที่ไม่ต้องรับประทานยาแก้ปวด
  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการกำเริบของอาการไมเกรน เช่น การนอนดึก อยู่ในสถานที่ที่แออัดหรือเสียงดัง การใช้คอมพิวเตอร์หรือจ้องมือถือเป็นเวลานาน เป็นต้น
  • ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตและบันทึกอาการของลูกอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้ลูกปวดหัวหรือเกิดอาการไมเกรน
  • หากลูกมีอาการปวดหัวไมเกรนบ่อยครั้งและรุนแรง ควรรับประทานยาแก้ปวดที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์เท่านั้น
  • เมื่อลูกมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดหัวจนตื่นขึ้นมากลางดึก ตัวชา มือและขาอ่อนแรง หรือถึงขั้นหมดสติ ควรรีบนำตัวส่งแพทย์โดยทันที

ไมเกรนในวัยเด็ก อันตรายไหม

ไมเกรนในเด็ก ไม่ส่งผลอันตรายอะไรที่ร้ายแรงและไม่มีผลต่อพัฒนาการของเด็ก แต่อาจจะทำให้เด็กเกิดความวิตกกังวลในเรื่องของสุขภาพและอาการป่วยของตนเอง จึงอาจจะส่งผลสุขภาพจิต รวมไปถึงยังอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเด็กอีกด้วย โดยเด็กที่มีอาการปวดหัวไมเกรนบ่อยๆ ก็อาจจะทำให้ต้องหยุดเรียน จึงอาจจะส่งผลกระทบต่อการเรียนในระยะยาวได้ หากไม่ทำการรักษาอย่างถูกต้อง

ไมเกรนวัยเด็ก รักษาได้ไหม

รักษาไมเกรนในเด็ก

โรคไมเกรน เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมและป้องกันอาการที่อาจจะรุนแรงได้ โดยไมเกรนในเด็กสามารถรักษาได้ด้วยการปรับพฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิต เช่น นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่กระตุ้นไมเกรน หลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือเป็นเวลานาน ออกกำลังกายเบา ๆ ดื่มน้ำเปล่าสะอาด และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่แออัดที่เป็นปัจจุยในการกระตุ้นความเครียด

สำหรับเด็กที่มีอาการปวดหัวที่ไม่รุนแรงมาก สามารถรักษาอาการเบื้องต้นได้ด้วยการนอนพักในห้องที่มีอากาศถ่ายเท เงียบสงบ ประคบน้ำแข็งบริเวณศีรษะ แต่ถ้าหากมีอาการปวดหัวไมเกรนขั้นรุนแรงก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ โดยใช้ยาในกลุ่มพาราเซตามอลเบื้องต้นก่อน แต่ถ้ายังไม่หายก็สามารถใช้ยาในกลุ่ม NSAIDs ได้ โดยการจ่ายยาจะต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลและให้คำแนะนำโดยแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น

ข้อสรุป

เด็กเป็นไมเกรนไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติเพราะทุกคนสามารถมีอาการปวดหัวไมเกรนได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยไหน และเกิดได้ทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง อาการไมเกรนนั้นไม่ได้มีอันตรายร้ายแรงเพียงแค่ต้องมีการรักษาและป้องกันอย่างถูกวิธี รวมไปถึงต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยหรือสิ่งกระตุ้นการทำให้ไมเกรนกำเริบ สำหรับไมเกรนในเด็ก ผู้ปกครองควรดูแลและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากลูกปวดหัวบ่อย ลูกปวดหัว ไม่มีไข้ ควรรีบเข้ามารักษาเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียในระยะยาว

สำหรับช่องทางการติดต่อศูนย์การรักษาอาการไมเกรน สามารถแอดไลน์ @ayaclinic หรือโทรเบอร์  090–970-0447 เพื่อปรึกษา ขอคำแนะนำ หรือจองคิวฉีดโบท็อกไมเกรน เพื่อลดอาการไมเกรน เวียนหัวและปวดหัวรูปแบบต่าง ๆ กับทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ BTX Migraine Center ศูนย์รักษาไมเกรนเฉพาะทางที่ปลอดภัยและทันสมัยได้ทันที

แอดไลน์