Prolotherapy คืออะไร? การรักษาอาการปวดเรื้อรัง ไม่ผ่าตัด ไม่ใช้สเตียรอยด์
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีวิธีรักษาทางเลือกที่ถูกพูดถึงกันมากในหมู่คนรักสุขภาพ นักกีฬา และคนที่อยากหลีกเลี่ยงการผ่าตัดหรือการใช้ยาสเตียรอยด์ นั่นก็คือ “Prolotherapy” ซึ่งเป็นเทคนิคการรักษาอาการปวดเรื้อรังที่เน้นกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองตามธรรมชาติ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ Prolotherapy ว่าจริงๆ แล้วคืออะไร ทำงานอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง และมีข้อควรรู้อะไรบ้างก่อนตัดสินใจลอง มาดูกันว่าการไม่ผ่าตัด ไม่ใช้สเตียรอยด์ จะช่วยรักษาเอ็นอักเสบเรื้อรังได้ยังไงบ้าง
สารบัญบทความ
- Prolotherapy คืออะไร?
- ประโยชน์ของ Prolotherapy
- กลไกการทำงานของ Prolotherapy
- สารที่ใช้ในการฉีด Prolotherapy
- อาการที่สามารถรักษาด้วย Prolotherapy
- ขั้นตอนการรักษาด้วย Prolotherapy
- ข้อดีเมื่อเทียบกับวิธีรักษาอื่น ๆ
- ผลข้างเคียงและข้อควรระวัง
- ข้อจำกัดของ Prolotherapy
- ข้อสรุป
Prolotherapy คืออะไร ?
Prolotherapy หรือโพรโลเทอราพี คือการฉีดสารกระตุ้นเข้าไปยังจุดที่มีปัญหา เช่น ฉีดรักษาเอ็นอักเสบ ฉีดรักษาข้อเข่าเสื่อม หรือจุดที่บาดเจ็บเรื้อรัง เพื่อให้ร่างกายเข้าใจว่าตรงนี้กำลังมีปัญหาแล้วกระตุ้นให้ระบบซ่อมแซมตัวเองทำงานอย่างจริงจังมากขึ้น หมือนกับการเตือนร่างกายว่ามีจุดที่ต้องรีบจัดการ ซึ่งต่างจากการฉีดยาระงับปวดทั่วไปที่แค่กดอาการให้เบาลง แต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นตอ ในทางกลับกัน Prolotherapy พยายามช่วยให้เนื้อเยื่อที่อ่อนแอหรือเสื่อมสภาพฟื้นตัวได้ดีขึ้นอย่างถาวร โดยเฉพาะกับพวกเส้นเอ็นและจุดเกาะของกล้ามเนื้อที่ชอบเจ็บเรื้อรัง
สิ่งที่น่าสนใจคือ Prolotherapy ไม่ได้ใช้สเตียรอยด์และไม่ต้องผ่าตัดเลยค่ะ คนไข้สามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังฉีด บางคนก็กลับไปทำงานต่อได้ตามปกติ เรียกได้ว่าเป็นแนวทางรักษาที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคนี้มาก
ประโยชน์ของ Prolotherapy
Prolotherapy ไม่ใช่แค่ทางเลือกใหม่สำหรับคนที่เบื่อกับอาการปวดแบบเรื้อรังเท่านั้น แต่ยังเป็นการรักษาที่เปิดโอกาสให้ร่างกายได้ฟื้นตัวด้วยตัวเอง มาดูกันว่า Prolotherapy มีข้อดีอะไรที่ทำให้หลายคนเริ่มหันมาสนใจแนวทางนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
การรักษาอาการปวดโดยไม่ต้องผ่าตัด
โพรโลเทอราพีเป็นการรักษาแบบ Non-invasive แปลว่าไม่ต้องผ่าหรือเปิดแผลใดๆ แค่ใช้เข็มเล็กๆ ฉีดสารกระตุ้นเข้าไปเท่านั้น ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผลใหญ่ และไม่ต้องเจอกับความเสี่ยงจากการวางยาสลบ เหมาะมากกับคนที่อยากใช้ชีวิตแบบไม่สะดุด ไม่ต้องลางานหลายวันหลังรักษา และยังสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วกว่าแนวทางแบบเดิมๆ
กระตุ้นการซ่อมแซมของร่างกายตามธรรมชาติ
จุดเด่นของ Prolotherapy อยู่ตรงนี้เลย แทนที่จะไปกดอาการปวดเฉยๆ แต่มันช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเราซ่อมแซมตัวเอง โดยเฉพาะกับพวกเส้นเอ็น ข้อต่อ หรือจุดที่อักเสบเรื้อรัง จริงๆ ร่างกายเรามีระบบฟื้นฟูในตัวอยู่แล้ว โพรโลเทอราพีเพียงแค่ทำหน้าที่คล้ายๆ กับการสะกิดเตือนให้ระบบซ่อมแซมกลับมาทำงานอีกครั้งแบบที่เป็นธรรมชาติ ไม่เร่ง ไม่รุนแรง แต่เน้นฟื้นฟูจากภายใน
ลดการพึ่งพายาแก้ปวดหรือสเตียรอยด์
เชื่อว่าหลายคนที่เจอกับอาการปวดข้อเรื้อรังคงเคยผ่านช่วงที่ต้องพึ่งยาแก้ปวดหรือฉีดสเตียรอยด์เป็นว่าเล่น แต่ยิ่งใช้บ่อยก็ยิ่งกังวลเรื่องผลข้างเคียง ทั้งต่อกระเพาะ ต่อไต หรือแม้แต่กระดูก
Prolotherapy เป็นแนวทางที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากกินยาแก้ปวดบ่อยๆ หรืออยากหาวิธีดูแลตัวเองแบบยั่งยืน เพราะไม่ใช่แค่บรรเทาอาการในระยะสั้นแต่ยังช่วยฟื้นฟูจากต้นเหตุ ลดการกลับมาปวดซ้ำแบบวนลูปไปได้เลย
กลไกการทำงานของ Prolotherapy
Prolotherapy คือการกระตุ้นให้ร่างกายเราซ่อมแซมตัวเอง โดยใช้แค่การฉีดเพียงเล็กน้อยในจุดที่มีปัญหา แล้วมันทำงานยังไง? มาดูแบบเข้าใจง่ายๆ กันค่ะ
เริ่มต้นจากการหลอกร่างกายเล็กน้อย
สารที่ใช้ในการทำ Prolotherapy มักเป็นน้ำตาลเดกซ์โทรสหรือน้ำตาลกลูโคสที่ผสมกับยาชาในปริมาณที่ปลอดภัย พอฉีดเข้าไปในจุดที่มีปัญหา เช่น ฉีดข้อเข่าเสื่อม เส้นเอ็นที่อักเสบ ข้อต่อที่อ่อนแอ หรือจุดที่เจ็บเรื้อรัง ร่างกายจะเข้าใจว่าตรงนี้มีความเสียหายคล้ายกับการบาดเจ็บเล็กๆ
กระตุ้นระบบซ่อมแซมตัวเองให้ลุกขึ้นมาทำงาน
พอร่างกายเข้าใจแบบนั้น มันก็จะรีบส่งเซลล์เม็ดเลือดขาว สารสื่ออักเสบ และโปรตีนที่ช่วยสร้างเนื้อเยื่อใหม่ เข้าไปจัดการฟื้นฟูในจุดนั้น ส่งผลให้เนื้อเยื่อรอบๆ ขยับจากโหมดนิ่งเฉยมาเป็นโหมดซ่อมแซมอย่างเต็มที่
ฟื้นฟูแบบยั่งยืน ไม่ใช่แค่บรรเทา
ผลลัพธ์ที่ได้คือ เส้นเอ็นและเนื้อเยื่อที่เคยอ่อนแอจะค่อยๆ แข็งแรงขึ้นจริง ไม่ใช่แค่รู้สึกดีชั่วคราวแบบตอนกินยาแก้ปวด แต่เป็นการฟื้นฟูจากโครงสร้างภายใน ซึ่งช่วยลดโอกาสการเจ็บซ้ำในระยะยาวได้
สารที่ใช้ในการฉีด Prolotherapy
หลายคนพอได้ยินคำว่า “ฉีด” อาจจะรู้สึกกลัวหรือคิดว่าเป็นการใช้สารแปลกๆ ที่อาจมีผลข้างเคียงเยอะ แต่จริงๆ แล้วสารที่ใช้ใน Prolotherapy ปลอดภัยกว่าที่คิดเยอะ ซึ่งสารเหล่านั้นมีดังนี้
- เดกซ์โทรส (Dextrose)
สารหลักที่ใช้ในการฉีดส่วนใหญ่คือ เดกซ์โทรส (Dextrose) หรือก็คือน้ำตาลกลูโคสนั่นเอง แพทย์จะทำการฉีดน้ำตาลกลูโคสที่มีความเข้มข้นสูงกว่าปกติ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 12.5%-25% แล้วแต่เคส โดยมันจะไปกระตุ้นให้ร่างกายเข้าใจว่าจุดที่ฉีดเข้าไปมีความเสียหาย แล้วร่างกายก็จะรีบส่งระบบซ่อมแซมมาเองตามธรรมชาติ
- ยาชาเฉพาะที่
ในสูตรที่ฉีดจะมีการผสมยาชาเฉพาะที่ (Local Anesthetic) เข้าไปด้วย เช่น ลิโดเคน (Lidocaine) เพื่อให้ตอนฉีดรู้สึกเจ็บน้อยลง คนไข้จะได้ไม่รู้สึกไม่สบายตัวระหว่างการรักษา เรียกได้ว่าใส่ใจทั้งผลลัพธ์และประสบการณ์ของคนไข้เลยค่ะ
ในบางคลินิกหรือกรณีที่ต้องการผลลัพธ์เฉพาะด้าน แพทย์อาจเลือกใช้สารเสริมอื่นร่วมด้วย เช่น PRP (Platelet-Rich Plasma) หรือสารจากเลือดของเราเอง ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซ่อมแซมให้มากขึ้น ซึ่งอันนี้จะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์เป็นหลักค่ะ
อาการที่สามารถรักษาด้วย Prolotherapy
หลายคนอาจคิดว่า Prolotherapy ใช้รักษาเอ็นอักเสบเรื้อรังเท่านั้น แต่ความจริงแล้วมันสามารถช่วยฟื้นฟูได้หลายอาการ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากเส้นเอ็น ข้อต่อ และจุดที่บาดเจ็บเรื้อรัง มาดูกันเลยว่าอาการแบบไหนที่โพรโลเทอราพีจะช่วยได้บ้าง
- ปวดหลังเรื้อรัง โดยเฉพาะอาการที่มาจากกล้ามเนื้ออักเสบหรือเส้นเอ็นรอบๆ กระดูกสันหลัง
- ปวดคอจากท่าทางหรือการนั่งทำงานนานๆ เหมาะกับคนทำงานออฟฟิศที่เมื่อยล้าสะสมจนกลายเป็นออฟฟิศซินโดรม
- ปวดข้อเรื้อรัง ข้อเข่าเสื่อม เจ็บเข่าเวลาเดินขึ้นลงบันได สำหรับคนที่ยังไม่ถึงขั้นต้องผ่าตัดแต่เริ่มมีอาการเจ็บจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน
- เอ็นไหล่อักเสบ หรือเจ็บไหล่จากการใช้งานซ้ำๆ เช่น คนที่ออกกำลังกายยกเวท เล่นแบด หรือเล่นกีฬาเป็นประจำ
- ข้อศอกอักเสบ (Tennis Elbow / Golfer’s Elbow) อาการปวดข้อศอกจากการใช้แขนเยอะๆ เช่น พิมพ์คอม ตีกอล์ฟ หรือเล่นกีฬา
- ปวดสะโพก ปวดก้นกบ หรืออาการเจ็บสะโพกจากท่านั่งผิด มักเจอในสายฟรีแลนซ์หรือคนที่นั่งติดโต๊ะนานๆ
- ข้อเท้าแพลงเรื้อรัง เจ็บบริเวณส้นเท้า เช่น เจ็บเอ็นร้อยหวาย หรือ plantar fasciitis ที่รักษามานานแต่ยังไม่ดีขึ้น
- ข้อมือ นิ้วล็อก หรืออาการเจ็บมือจากการใช้งานซ้ำๆ เจอบ่อยในคนที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์หรือใช้งานมือหนักๆ
- อาการปวดที่หาสาเหตุชัดเจนไม่ได้ แต่มีจุดกดเจ็บเฉพาะจุด เช่น เจ็บจี้ดเวลาโดนกด เจ็บเฉพาะเวลาขยับท่าใดท่าหนึ่ง
ขั้นตอนการรักษาด้วย Prolotherapy
ถ้าคุณกำลังหาข้อมูลว่าการฉีด Prolotherapy ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง เจ็บมั้ย ใช้เวลานานรึเปล่า? ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เพราะขั้นตอนทั้งหมดไม่ได้ยุ่งยากและส่วนใหญ่ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังทำเสร็จ มาดูกันว่าทั้งกระบวนการมีอะไรบ้าง
- พูดคุยและประเมินอาการ
เริ่มจากการพูดคุยกับแพทย์เพื่อเช็กว่าอาการของเรานั้นเหมาะกับการทำ Prolotherapy หรือไม่ แพทย์จะตรวจร่างกาย ดูจุดที่ปวดหรือบาดเจ็บ และอาจมีการขอดูผลเอกซเรย์หรือ MRI ถ้ามี
- วางแผนจุดที่ฉีด
เมื่อรู้แล้วว่าต้องรักษาตรงไหน แพทย์จะกำหนดจุดฉีดซึ่งก็คือบริเวณที่มีปัญหาจริงๆ เช่น ฉีดรักษาเอ็นอักเสบ ฉีดรักษาข้อเข่าเสื่อม หรือหลังส่วนล่าง เพื่อให้สารที่ฉีดเข้าไปทำงานได้ตรงเป้า
- เริ่มฉีดรักษา
ขั้นตอนนี้จะใช้เข็มเล็กๆ ฉีดน้ำตาลกลูโคสเข้มข้นพิเศษผสมยาชาเฉพาะที่ลงไปในจุดที่ต้องการกระตุ้นการซ่อมแซม ซึ่งการฉีดอาจมีหลายจุดในครั้งเดียว ขึ้นอยู่กับอาการ ความรู้สึกระหว่างฉีดจะคล้ายๆ กับการฉีดยาทั่วไป อาจมีรู้สึกตึงๆ หรือร้อนๆ บ้าง แต่โดยรวมไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
- พักสั้นๆ แล้วกลับบ้านได้เลย
หลังฉีดเสร็จสามารถนั่งพักสักครู่เพื่อให้ร่างกายปรับตัว แล้วก็สามารถกลับบ้านได้ทันที ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่ต้องใส่เฝือก ไม่ต้องพักฟื้นนาน
- การติดตามผลและรอบการรักษา
โดยทั่วไปอาจต้องทำหลายครั้งต่อเนื่องกันทุก 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและการตอบสนองของร่างกาย ซึ่งแพทย์จะเป็นคนประเมินเป็นรายบุคคล
ข้อดีเมื่อเทียบกับวิธีรักษาอื่น ๆ
ในยุคที่เรามีทางเลือกมากมายในการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการกินยา ทำกายภาพบำบัด ฉีดสเตียรอยด์ ไปจนถึงการผ่าตัด การเลือกแนวทางที่พอดีและเหมาะกับตัวเราคือสิ่งสำคัญ และนี่คือจุดที่ Prolotherapy เริ่มได้รับความสนใจ เพราะมันมีข้อดีเฉพาะตัวที่แตกต่างจากวิธีอื่นๆ อยู่ไม่น้อยเลย
- ไม่ใช่แค่บรรเทาแต่ฟื้นฟูให้ดีขึ้นจริง
ต่างจากการกินยาแก้ปวดหรือฉีดสเตียรอยด์ที่ทำให้หายปวดแบบชั่วคราวแต่ไม่แก้ปัญหาที่ราก โดย Prolotherapy มุ่งไปที่การกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียแบบจริงจัง ทำให้โอกาสกลับมาเจ็บซ้ำลดลง
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน
เหมาะกับคนที่ไม่อยากเจ็บตัวหรือยังไม่ถึงจุดที่ต้องเข้าห้องผ่าตัด Prolotherapy เป็นการรักษาแบบไม่บุกรุก ฉีดเสร็จก็กลับบ้านได้ ไม่ต้องนอน รพ. หรือหยุดงานยาว
- ลดการพึ่งพายาแก้ปวดหรือสเตียรอยด์
สำหรับคนที่กินยาบ่อยๆ จนเริ่มกังวลเรื่องผลข้างเคียง Prolotherapy เป็นทางเลือกที่ช่วยลดการใช้ยาในระยะยาวได้ เพราะมันไม่ใช่การกดอาการ แต่เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายจัดการเอง
- ใช้สารธรรมดาแต่ผลลัพธ์ยั่งยืน
สารที่ใช้คือเดกซ์โทรสหรือการฉีดน้ำตาลกลูโคส ซึ่งปลอดภัย ไม่ใช่สารเคมีแปลกๆ หรือยาที่เสี่ยงสะสมในร่างกาย และเป็นสารที่ร่างกายเราคุ้นเคยอยู่แล้ว
ผลข้างเคียงและข้อควรระวัง
ถึงแม้ว่า Prolotherapy จะเป็นการรักษาที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็เหมือนกับการรักษาทุกอย่างบนโลกนี้ที่มีข้อควรรู้ไว้บ้างก่อนตัดสินใจ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ส่วนใหญ่แล้วผลข้างเคียงของ Prolotherapy ไม่ได้รุนแรงอะไร และมักจะเป็นอาการชั่วคราวที่เกิดจากการกระตุ้นให้ร่างกายเริ่มซ่อมแซมตัวเอง ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่สบายในช่วงแรก เช่น
- บวม แดง หรือรู้สึกอุ่นตรงจุดที่ฉีด มักเป็นหลังฉีดใหม่ๆ เป็นอาการปกติที่บอกว่าร่างกายเริ่มมีการอักเสบแบบควบคุมเพื่อฟื้นฟู
- ปวดมากขึ้นช่วงสั้นๆ อาการนี้บางคนเรียกว่า healing flare คือร่างกายกำลังเริ่มกระบวนการซ่อมแซม อาจปวดเพิ่มใน 1-3 วันแรก ก่อนจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง
- รอยช้ำหรือเจ็บบริเวณที่ฉีด โดยเฉพาะถ้าฉีดหลายจุดในรอบเดียว แต่อาการนี้มักหายได้เองในไม่กี่วัน
- รู้สึกตึงๆ หรือขยับลำบากเล็กน้อย เป็นอาการที่มาพร้อมการอักเสบตามธรรมชาติ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้งานหนักๆ ชั่วคราว
ข้อควรระวัง
ก่อนจะเข้ารับการรักษาด้วย Prolotherapy มีบางเรื่องที่ควรคำนึงไว้เล็กน้อยเพื่อความปลอดภัยและได้ผลดีที่สุด
- ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อนเสมอ เพราะการฉีดรักษาเอ็นอักเสบต้องอาศัยความแม่นยำในการวินิจฉัยและฉีดสารให้ตรงจุด
- หลีกเลี่ยงการกินยาแก้อักเสบกลุ่ม NSAIDs ก่อน-หลังฉีด เช่น ยาพาราเซตามอล โวลทาเรน ไอบูโพรเฟน เพราะยาเหล่านี้จะไปขัดขวางกระบวนการอักเสบธรรมชาติที่โพรโลเทอราพีต้องการให้เกิดเพื่อซ่อมแซม
- อาจไม่เหมาะกับคนที่มีโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น เบาหวานที่ควบคุมไม่ดี ภาวะเลือดออกง่าย หรือคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ควรดูแลร่างกายหลังฉีดอย่างเหมาะสม เช่น งดการออกกำลังกายหนักๆ หลีกเลี่ยงการยกของ หรือใช้ร่างกายเกินความจำเป็นใน 2-3 วันแรก
ข้อจำกัดของ Prolotherapy
- ต้องใช้เวลาและความต่อเนื่อง
Prolotherapy ไม่ได้เห็นผลทันทีเหมือนการฉีดยาแก้ปวดหรือการใช้สเตียรอยด์ที่อาการจะดีขึ้นในวันสองวัน เพราะจุดเด่นของมันคือการฟื้นฟูระยะยาว ซึ่งต้องใช้เวลาในการกระตุ้นให้ร่างกายค่อยๆ ซ่อมแซมตัวเอง บางคนอาจต้องทำหลายครั้งและเว้นระยะห่างเป็นสัปดาห์ๆ ซึ่งต้องมีความสม่ำเสมอพอสมควร
- ต้องพึ่งพาร่างกายตัวเอง
เพราะหลักการของ Prolotherapy คือกระตุ้นให้ร่างกายทำงานเอง ดังนั้นถ้าใครที่ร่างกายฟื้นตัวได้ช้า เช่น มีอายุเยอะมาก ระบบเผาผลาญไม่ดี หรือมีโรคประจำตัวบางชนิด ก็อาจจะเห็นผลน้อยกว่าคนทั่วไป หรือใช้เวลานานกว่า
- ไม่ใช่คำตอบของทุกอาการ
Prolotherapy เหมาะกับอาการปวดเรื้อรังที่เกิดจากเส้นเอ็น ข้อ หรือกล้ามเนื้อ เช่น ฉีดรักษาเอ็นอักเสบ ฉีดข้อเข่าเสื่อม ไหล่ติด แต่ไม่เหมาะกับกรณีที่โครงสร้างร่างกายเสียหายรุนแรง เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นอย่างรุนแรง ข้อเสื่อมระดับ 4 หรือกระดูกหัก ซึ่งอาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย
ข้อสรุป
Prolotherapy ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ รักษาเอ็นอักเสบเรื้อรัง หรือฉีดรักษาข้อเข่าเสื่อมแบบไม่พึ่งการผ่าตัด ไม่ใช้สเตียรอยด์ และไม่ต้องกินยาไปตลอดชีวิต โดยอาศัยพลังการฟื้นฟูของร่างกายตัวเองเป็นหลัก แม้จะต้องใช้เวลาและความต่อเนื่องสักหน่อยแต่ก็เป็นแนวทางที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพระยะยาว และอยากแก้ปัญหาแบบยั่งยืนจากข้างในมากกว่าการแค่บรรเทาอาการชั่วคราวเท่านั้น