Cryotherapy บำบัดไมเกรนด้วยความเย็นติดลบ
อาการปวดหัวไมเกรน ถือเป็นอีกหนึ่งอาการที่สร้างความทรมานให้ผู้ป่วยจำนวนมาก อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างรุนแรง ซึ่งในปัจจุบัน การรักษาไมเกรนก็มีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การรับประทานยา การรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนจีน แต่สำหรับผู้ป่วยบางรายอาจไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบเดิม การบำบัดไมเกรนทางเลือก อย่าง Cryotherapy หรือ การบำบัดด้วยความเย็นติดลบ จึงกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ
สารบัญบทความ
- อาการไมเกรนที่พบได้บ่อย
- ทำไมอากาศร้อนถึงส่งผลต่ออาการไมเกรน
- อุณหภูมิเย็น ลดอาการไมเกรนได้จริงหรือไม่
- Cryotherapy คืออะไร
- Cryotherapy ทำงานอย่างไร
- ประโยชน์ของ Cryotherapy
- ข้อจำกัดของ Cryotherapy
- แนวทางการรักษาไมเกรนแผนปัจจุบัน
- ข้อสรุป
ตัวกระตุ้นไมเกรนที่พบได้บ่อย
อีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้อาการปวดหัวไมเกรนกำเริบและรุนแรงขึ้นนั่นก็คือ “ความร้อน” ซึ่งถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะสภาพอากาศในประเทศไทยที่มีความร้อนสูง ในหลาย ๆ งานวิจัย ชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ อาจส่งผลต่อความถี่และความรุนแรงของอาการปวดหัวไมเกรน ให้มีการบรรเทาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุณหภูมิที่ลดลง อากาศที่เย็น และความชื้นต่ำ
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Headache ปี 2017 วิเคราะห์ข้อมูลอาการไมเกรนของผู้ป่วยมากกว่า 77,000 คน จาก 11 ประเทศ พบว่า อุณหภูมิที่ลดลง 5 องศาเซลเซียส มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการปวดหัวไมเกรนที่ลดลง 7%
อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันอย่างแน่ชัดว่าทำไมอากาศหนาว ถึงช่วยลดปวดไมเกรนได้ แต่มีทฤษฎีบางประการที่เป็นไปได้ เช่น
- อากาศที่เย็น ทำให้หลอดเลือดในสมองหดตัว
- ความชื้นต่ำ ช่วยลดการอักเสบในสมอง
- อากาศหนาวอาจส่งผลต่อระดับสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับไมเกรน เช่น เซโรโทนิน
ทำไมอากาศร้อนถึงส่งผลต่ออาการไมเกรน
อากาศร้อนจัดส่งผลต่อสุขภาพของเราในหลายด้าน โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการไมเกรน พบว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้เส้นเลือดในสมองโป่งพองมากขึ้น และกระตุ้นอาการปวดหัวไมเกรนให้กำเริบได้ สาเหตุที่อากาศร้อนส่งผลต่ออาการไมเกรน ได้แก่:
- ร่างกายสูญเสียน้ำ: อากาศร้อนทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ซึ่งส่งผลต่อสมดุลของสารเคมีในร่างกาย และอาจกระตุ้นให้อาการไมเกรนกำเริบได้
- ความดันโลหิตสูง: อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นอีกปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญ
- การขาดออกซิเจน: อากาศที่ร้อนจัดจะทำให้ร่างกายมีระดับออกซิเจนต่ำลง และการขาดออกซิเจนก็ส่งผลต่อระบบประสาทโดยตรง และกระตุ้นให้อาการปวดหัวไมเกรนกำเริบได้
อุณหภูมิเย็น ลดอาการไมเกรนได้จริงหรือไม่
จากผลการศึกษาและงานวิจัยหลายแห่ง พบว่าอุณหภูมิเย็นช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้ โดยจะลดการไหลเวียนเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณศีรษะ ช่วยลดอาการปวด บวม และอักเสบ กระตุ้นระบบประสาท ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เบื้องต้นแล้ว หากผู้ป่วยไมเกรนมีอาการกำเริบ ก็สามารถใช้ความเย็นบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้ เช่น:
- ประคบเย็น: โดยใช้น้ำแข็งห่อผ้าประคบบริเวณหน้าผาก ใบหน้า หรือท้ายทอย เป็นเวลา 10-20 นาที ทำซ้ำ 2-3 ครั้งต่อชั่วโมง
- ดื่มน้ำเย็นจัดทีละน้อย ๆ: ช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน
- การอาบน้ำเย็น: จะช่วยกระตุ้นระบบประสาท และลดปวดไมเกรนได้
Cryotherapy คืออะไร
Cryotherapy คือ นวัตกรรมการรักษาอาการต่าง ๆ ด้วยการใช้ไนโตรเจนเหลวที่มีความเย็นจัดประมาณ -100°C ถึง -180°C บำบัดร่างกาย ช่วยลดอาการปวด ลดการอักเสบ ทำลายเนื้อเยื่อที่ผิดปกติ และกระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์ โดยส่งผลให้การไหลเวียนเลือดในบริเวณที่อักเสบลดลง จึงช่วยลดอาการบวมและอักเสบได้ การบำบัดด้วย Cryotherapy ได้รับความนิยมมากในหมู่นักกีฬา ผู้มีอาการปวดเรื้อรัง และผู้ที่ต้องการชะลอวัย
Cryotherapy ทำงานอย่างไร
Cryotherapy เป็นการใช้ความเย็นบำบัดร่างกาย ผ่านตู้แชมเบอร์เยือกแข็ง เมื่อผู้ป่วยเข้าไปในตู้แล้ว ตู้ก็จะทำความเย็นทันที เมื่ออุณหภูมิในร่างกายลดลง สมองจะเกิดการกระตุ้นโดยการควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ เพื่อให้อวัยวะในส่วนต่าง ๆ กลับมาทำงานได้ปกติ ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้การไหลเวียนของเลือดทำงานได้ปกติ ออกซิเจนในเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้มากขึ้น และสำหรับการใช้ Cryotherapy ในการบำบัดไมเกรน จะมีกลไกดังนี้:
- ลดการอักเสบ: ความเย็นจัดช่วยลดการอักเสบของเส้นประสาทและหลอดเลือดในบริเวณที่ปวดหัวไมเกรน
- ลดการนำส่งสัญญาณปวด: ความเย็นส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้การนำส่งสัญญาณปวดไปยังสมองลดลง
- กระตุ้นการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน: ความเย็นกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีน ช่วยลดความเจ็บปวดได้
ประโยชน์ของ Cryotherapy
- ลดอาการปวดและอักเสบ
Cryotherapy ช่วยลดอาการปวดและอักเสบในกล้ามเนื้อและข้อต่อได้อย่างรวดเร็ว บรรเทาอาการปวดหลังการออกกำลังกาย ปวดเรื้อรัง เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม และโรคไขข้ออักเสบ รวมถึงอาการปวดหัวและปวดหัวไมเกรน
- ฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย
Cryotherapy ช่วยลดการสะสมของกรดแลคติกในกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นฟูเร็วขึ้น ลดอาการปวดเมื่อย และช่วยให้กลับไปออกกำลังกายได้โดยไม่รู้สึกล้า
- กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
Cryotherapy ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและต้านทานโรคได้ดีขึ้น
- บำบัดอาการซึมเศร้า
Cryotherapy ช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่มีผลต่อความรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข ช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าและความเครียดได้
- ชะลอวัย
Cryotherapy ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง เรียบเนียน ช่วยลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
การใช้ Cryotherapy เป็นการรักษาแนวทางเลือก ไม่ใช่การรักษาแพทย์แผนปัจจุบัน จึงอาจมีข้อจำกัดหรือไม่เหมาะกับผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคระบบประสาท
ข้อจำกัดของ Cryotherapy
แม้ว่าการบำบัดด้วย Cryotherapy จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจ ดังนี้
- ความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากความเย็นจัด : Cryotherapy จะใช้ความเย็นจัดเป็นเวลานาน จึงอาจทำให้เกิดอาการบวม ชา หรือแม้กระทั่งเนื้อเยื่อตายได้
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัว : ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคระบบประสาท และโรคผิวหนัง ควรหลีกเลี่ยงการบำบัดด้วยวิธีนี้ หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ
- ค่าใช้จ่ายสูง : Cryotherapy เป็นการบำบัดทางเลือกที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง การเข้ารับบริการเพียงครั้งเดียวอาจมีราคาหลายพันบาท
แนวทางการรักษาไมเกรนแผนปัจจุบัน
โบท็อกซ์ไมเกรน
การฉีดโบท็อกซ์รักษาไมเกรน เป็นการยับยั้งการปล่อยสารสื่อประสาทที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวด ลดการทำงานของเส้นประสาทรับความรู้สึกปวด และลดการอักเสบในระบบประสาทส่วนกลาง โดยแพทย์จะฉีดโบท็อกซ์เข้าไปบริเวณ กล้ามเนื้อต้นคอ ไหล่ และศีรษะ เพื่อลดความถี่ และความรุนแรงของอาการปวดหัวไมเกรน
ยาฉีดพุงลดไมเกรน
ยาฉีดพุงลดไมเกรน มีลักษณะเป็นเข็มปากกา ใช้สำหรับการป้องกันอาการปวดหัวไมเกรนในผู้ใหญ่ ยาชนิดนี้ทำหน้าที่โดยการยับยั้งสารเคมีในสมองที่ชื่อว่า CGRP ซึ่งเชื่อว่ามีบทบาทสำคัญในการเกิดอาการปวดไมเกรน เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ตัวยาจะเข้าไปยับยั้ง CGRP ไม่ให้ส่งสัญญาณต่อได้ ส่งผลให้หลอดเลือดไม่ได้มีการขยายตัวใหญ่ขึ้นและไม่เกิดการอักเสบตามมา นั่นทำให้อาการปวดหัวไมเกรนไม่ตามมาด้วย
ข้อสรุป
Cryotherapy เป็นการรักษาและแก้ไมเกรนแนวทางเลือก ไม่ใช่การรักษาแพทย์แผนปัจจุบัน ผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัย หากท่านสนใจรับการรักษาหรือบำบัดไมเกรนด้วย Cryotherapy สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ BTX Migraine Center ศูนย์รักษาไมเกรนและอาการปวดหัวเรื้อรังที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์สำหรับการตรวจไมเกรนโดยเฉพาะ หรือผู้ที่กังวลต้องการตรวจเช็กภายในสมอง ทางศูนย์มีบริการส่งคนไข้เพื่อทำการรักษาด้วย Cryotherapy ได้โดยตรง
สามารถแอดไลน์ @ayaclinic หรือโทรเบอร์ 090–970-0447 เพื่อปรึกษา ขอคำแนะนำ หรือจองคิวการรักษาในรูปแบบต่าง ๆ กับทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ BTX Migraine Center ศูนย์รักษาไมเกรนเฉพาะทางที่ปลอดภัยและทันสมัยได้ทันที
เอกสารอ้างอิง
https://ittm.dtam.moph.go.th/images/knowleaga
https://ittm.dtam.moph.go.th/images/knowleaga