ยาคุมกำเนิด รักษาอาการไมเกรนได้จริงไหม ทำไมบางรายอาการดีขึ้นได้เพราะยาคุม
ยาคุมกำเนิด เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้มากกว่า 90% นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ส่งผลดีต่อภายในของเพศหญิง ไม่ว่าจะเป็น การช่วยทำให้ประจำเดือนมาปกติ บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาขาด ๆ หาย ๆ ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งรังไข่และมะเร็งมดลูก และที่สำคัญยังสามารถรับประทานยาคุมเพื่อลดสิวฮอร์โมนได้อีกด้วย ผู้ป่วยไมเกรนบางรายเชื่อว่า ยาคุมกำเนิด มีสรรพคุณที่เกี่ยวข้องกับการรักษาไมเกรนด้วย เพราะผู้ป่วยไมเกรนบางรายเมื่อรับประทานยาคุมแล้ว สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้จริง แต่ในบางรายการรับประทานยาคุม ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและไม่ได้ช่วยในการรักษาไมเกรน
สารบัญบทความ
- ยาคุม คืออะไร
- ยาคุมมีแบบใดบ้าง แตกต่างกันอย่างไร
- ทำไมผู้หญิงถึงปวดหัวไมเกรนมากกว่าผู้ชาย
- อาการปวดหัวไมเกรนช่วงประจำเดือน
- ยาคุมช่วยลดไมเกรนได้จริงหรือ
- ผลข้างเคียงของการใช้ยาคุมในการรักษาไมเกรน
- แนวทางการรักษาไมเกรนอื่น ๆ
- ข้อสรุป
ยาคุม คืออะไร
ยาคุมกำเนิด (Oral contraceptive pill) คือยาที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งได้แก่ฮอร์โมนโปรเจสโตเจนและฮอร์โมนเอสโตรเจน โดยมีการรับประทานยาคุมเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ โดยยาคุมกำเนิดจะทำงานโดยการยับยั้งการตกไข่ ทำให้มูกที่ปากมดลูกหนาขึ้น และทำให้ผนังมดลูกบางลง ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ตัวอสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้
ยาคุมมีแบบใดบ้าง แตกต่างกันอย่างไร
โดยปกติแล้ว ยาคุมกำเนิดสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ได้แก่
- ยาคุมกำเนิดแบบรับประทาน
- ยาคุมกำเนิดแบบฉีด
- ยาคุมกำเนิดแบบฝัง
- ยาคุมกำเนิดแบบแปะ
- ยาคุมกำเนิดแบบวงแหวน
- ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน
แต่ในกรณีนี้หากเราพูดถึงยาคุมกำเนิดแบบเม็ดหรือแบบรับประทานนั้น จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
- ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม (combined pill) คือ มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน ซึ่งเป็นแบบ 21 เม็ด กับ 28 เม็ด การรับประทานยาคุมชนิดนี้สามารถปรึกษาเภสัชกรก่อนได้ เพราะแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด มีวิธีการรับประทานยาที่แตกต่างกัน
- ยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (progesterone pill) คือ ยาคุมที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนอย่างเดียวยาคุมชนิดนี้ในหนึ่งแผงจะมีทั้งหมด 28 เม็ด รับประทานได้ทุกวันโดยไม่ต้องหยุด
ทำไมผู้หญิงถึงปวดหัวไมเกรนมากกว่าผู้ชาย
ไมเกรน เป็นภาวะปวดหัวเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า สาเหตุที่มาของไมเกรนยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่มีปัจจัยสำคัญที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดไมเกรนในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งนั่นก็คือฮอร์โมนในเพศหญิง ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในร่างกายผู้หญิงจะเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งเดือน โดยเฉพาะในช่วงที่มีประจำเดือน ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดไมเกรนได้ นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ หลังคลอดบุตร หรือในวัยหมดประจำเดือน ก็เป็นช่วงเวลาที่กระตุ้นให้ผู้หญิงมีอาการปวดหัวไมเกรนได้มากกว่าเช่นกัน
อาการปวดหัวไมเกรนช่วงประจำเดือน
อาการปวดหัวไมเกรนสามารถเกิดขึ้นได้ในผู้หญิงทุกช่วงวัย แต่มักจะพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะในช่วงที่มีประจำเดือน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในร่างกายที่ลดลงมากกว่าปกติ อาการปวดหัวไมเกรนช่วงมีประจำเดือนมักเกิดขึ้นก่อนหรือในช่วงที่มีประจำเดือน และอาจมีอาการปวดได้นานถึง 3 วัน อาการปวดอาจรุนแรงจนทำให้ผู้ป่วยต้องหยุดทำกิจกรรมต่าง ๆ และอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และมีอาการไวต่อแสงและเสียง
ยาคุมช่วยลดไมเกรนได้จริงหรือ
จากบทความวิจัยหรือจากรีวิวในหลาย ๆ แห่ง หลายคนอาจพบว่ามีผู้ป่วยไมเกรนบางราย รับประทานยาคุมกำเนิดร่วมด้วยและพบว่า การทานยาคุมสามารถบรรเทาอาการปวดหัวได้จริง แต่ก็ยังไม่ได้มีการยืนยันอย่างแน่ชัด เพราะในผู้ป่วยบางรายหากมีการรับประทานยาคุมกำเนิดในช่วงที่ปวดหัวไมเกรน อาจเสี่ยงอันตรายต่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดดำ เนื่องจากในยาคุมกำเนิดมีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในผู้ป่วยไมเกรนประเภทที่มีอาการเตือนหรือ migraine with aura ซึ่งผู้ป่วยมักจะมีการเห็นภาพเตือนก่อนเกิดอาการปวดศีรษะและมักจะพบมากในผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
ผู้ป่วยไมเกรนประเภทที่มีอาการเตือน มักจะมีอาการปวดหัวที่ค่อนข้างรุนแรงและใช้เวลานานมากกว่าผู้ป่วยไมเกรนทั่วไป หากรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูง ก็จะไปเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดในสมอง โรคเส้นเลือดดำอุดตันหรือโรคหัวใจได้ ถือเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว
ผลข้างเคียงของการใช้ยาคุมในการรักษาไมเกรน
ปัจจุบันก็ยังไม่ได้มีผลการวิจัยที่ยืนยันว่า ยาคุมกำเนิดจะช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรนในผู้หญิงทุกคนได้ และยังอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาได้อีกด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน อารมณ์แปรปรวน และปวดท้อง
แนวทางการรักษาไมเกรนอื่น ๆ
มีผู้ป่วยไมเกรนหลายรายที่รับประทานยาคุมชนิดเม็ดแล้ว มักจะเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ ซึ่งผู้ป่วยในกลุ่มนี้ แพทย์จะแนะนำให้รักษาไมเกรนด้วยทางเลือกอื่น เช่น การฉีดโบท็อกไมเกรน หรือการใช้ปากกาฉีดพุง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการแพทย์สมัยใหม่ ที่สามารถรักษาไมเกรนได้จริง
การรักษาไมเกรนด้วย Botox ควบคู่กับการรักษาด้วยปากกาฉีดพุง จะช่วยให้การรักษาอาการปวดหัวไมเกรนได้ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น โดย Botox มีข้อดีคือช่วยรักษาอาการปวดหัวไมเกรน ช่วยรักษาอาการปวดคอ บ่า ไหล่ จากออฟฟิศซินโดรม และช่วยบล็อคสารสื่อประสาทที่ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อเป็นไมเกรน เมื่อนำมารักษาควบคู่กับ ปากกาฉีดพุงที่ออกฤทธิ์ในการต้าน CGRP จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น เห็นผลการรักษาเร็ว และคงอยู่ได้ยาวนาน
ข้อสรุป
จากข้างต้น สรุปได้ว่า ยาคุมกำเนิดไม่ได้สามารถรักษาไมเกรนได้จริง ในทางกลับกัน ยาคุมกำเนิด ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้มากกว่าเดิมอีกด้วย หากสาวๆ คนไหนที่มีปัญหาเหล่านี้เป็นประจำทุกเดือน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงที่ BTX Migraine Center ศูนย์รักษาไมเกรนที่มีแนวทางการรักษาแบบทางเลือกอื่นๆ เพื่อช่วยในการรักษาไมเกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถแอดไลน์ @ayaclinic หรือโทรเบอร์ 090–970-0447 เพื่อปรึกษา ขอคำแนะนำ หรือจองคิวฉีดโบท็อกไมเกรน เพื่อลดอาการไมเกรน เวียนหัวและปวดหัวรูปแบบต่าง ๆ กับทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ BTX Migraine Center ศูนย์รักษาไมเกรนเฉพาะทางที่ปลอดภัยและทันสมัยได้ทันที