ปวดไมเกรนรักษาได้กี่วิธี? เป็นคำถามยอดฮิตของผู้ป่วยโรคไมเกรน เนื่องจากอาการของโรคนี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น ไม่สามารถขับรถได้ เนื่องจากมีอาการไมเกรนขึ้นตา ไม่สามารถทำงานหรือจ้องคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลา เนื่องจากจะทำให้เกิดอาการปวดหัว เป็นต้น
ความทรมานของโรคไมเกรนนี้ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางกาย ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต บทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลว่าไมเกรนคืออะไร? รักษาหายหรือไม่? รวมถึงปวดไมเกรนรักษาได้กี่วิธี? มาฝาก ถ้าพร้อมแล้วตามไปอ่านกันเลยค่ะ
ไมเกรนคืออะไร
ก่อนจะรู้จักปวดไมเกรนรักษาได้กี่วิธี เราจะพาทุกคนไปรู้จักเกี่ยวกับไมเกรนว่าเป็นโรคที่พบได้บ่อยในอันดับ 2 โดยส่วนใหญ่พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย เกิดได้จากหลายปัจจัย โดยลักษณะอาการส่วนใหญ่ที่พบมีดังนี้
- ปวดตุ๊บๆ ปวดเป็นจังหวะคล้ายจังหวะชีพจร
- ปวดหัวข้างเดียว ปวดซีกเดียว หรือปวดสลับด้าน ซึ่งในบางรายพบว่ามีอาการปวดไมเกรนทั้งสองข้าง
- ปวดหัวไมเกรนบ่อย รุนแรง โดยมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ อาเจียน เวียนหัว
- มีอาการตาพร่ามัว มองเห็นภาพไม่ชัด เห็นภาพซิกแซกและสูงวูบวาบ หรือที่เรียกว่าอาการนำทางสายตา
- ปวดหัวท้ายทอยหรือปวดรอบๆ บริเวณศีรษะ เนื่องจากกล้ามเนื้อเกร็งตัว
- ไวต่อสิ่งเร้า เช่น แพ้แสงจ้า เสียงดัง และกลิ่นรุนแรง
- รู้สึกว่าร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ จนทำให้เกิดความเหนื่อยล้า อ่อนแรง
- ระยะเวลาในการปวดหัวติดต่อกันนานตั้งแต่ 20 นาทีไปจนถึงหลายชั่วโมง ในบางรายอาจจะปวดหัวตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงช่วงเข้านอน
ไมเกรนเกิดจากอะไร
ดังที่กล่าวมาในข้างต้น ไมเกรนถือเป็นโรคที่พบได้บ่อย และมีลักษณะอาการที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ ในผู้ป่วยแต่ละรายก็พบว่ามีปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน คลื่นไส้ที่ต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่แบ่งสาเหตุได้ 4 ประเภท ดังนี้
สารเคมีในสมองซีโรโทนิน (Serotonin)
สารเคมีในสมองซีโรโทนินคือ สารชนิดหนึ่งที่พบได้ในร่างกาย ทำหน้าที่เกี่ยวกับสมองและระบบประสาท โดยปกติแล้วร่างกายจะหลั่งสารเคมีในระดับที่เหมาะสมและปรับสมดุลอัตโนมัติ เพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ
ทั้งนี้ ไมเกรนสามารถเกิดได้จากความผิดปกติของสารเคมีในสมองอย่างซีโรโทนิน ซึ่งจะส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวมากกว่าปกติ และส่งผลให้ระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกายผิดปกติตามไปด้วย ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวข้างซ้ายสลับขวา ปวดตุบๆ
ตามมา วิธีแก้ปวดไมเกรนเบื้องต้นนั้นสามารถทำได้โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ
แสง สี เสียง และกลิ่นต่างๆ
อีกหนึ่งปัจจัยภายนอกที่เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดอาการปวดไมเกรน โดยเฉพาะการอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงจ้า มีสีสันจ้าเกินกว่าปกติ การได้ยินเสียงที่ดัง เช่น เสียงเครื่องจักร เสียงดนตรี รวมถึงกลิ่นที่รุนแรงและฉุน เช่น กลิ่นน้ำหอม กลิ่นควัน กลิ่นอาหารบางชนิด ดังนั้น วิธีแก้ปวดหัวไมเกรนง่ายๆ คือ อยู่ในพื้นที่ที่สงบ ความสว่างแสงในระดับพอดี ไม่มีกลิ่นหรือเสียงเร้าให้เกิดอาการ อาการก็จะดีขึ้นตามลำดับ
ภาวะความเครียดสะสม
ภาวะความเครียดสะสม เกิดจากภาวะเครียดหรือภาวะที่ถูกบีบคั้น กดดันที่เกิดขึ้นเป็นเวลานาน เช่น ความเครียดจากการเรียน การทำงาน การตั้งเป้าหมายในเรื่องใดเรื่องหนึ่งสูงเกินไป ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะเครียดสะสม มีอาการปวดหัวจากความเครียด ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจกลายเป็นโรคปวดหัวเรื้อรัง และอาจกลายเป็นโรคเครียด วิตกกังวล ไปจนถึงซึมเศร้า
วิธีป้องกันและแก้ไมเกรนเบื้องต้นคือ การจัดการความเครียดในวิธีที่ถูกต้องและเหมาะสมกันตนเอง เช่น หากิจกรรมที่ชื่นชอบทำ ดูซีรีส์ ดูภาพยนตร์ ออกไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน ก็จะช่วยลดความเครียดซึ่งจะนำไปสู่อาการปวดหัวได้
การใช้ชีวิตประจำวัน
การใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นระยะเวลานาน การนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การดื่มน้ำไม่เพียงต่อความต้องการของร่างกาย เป็นต้น ล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรนได้ทั้งสิ้น ทางที่ดีในการบรรเทาอาการควรพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเพื่อยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ และดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายก็จะช่วยบรรเทาอาการได้แล้ว
อาการของการเกิดไมเกรนมี 4 ระยะ
ก่อนที่จะไปทำความรู้จักปวดไมเกรนรักษาได้กี่วิธี จะต้องรู้ถึงอาการของไมเกรนทั้ง 4 ระยะ เพื่อประเมินและรู้เท่าทันโรคไมเกรน ก่อนจะทำการรักษา ซึ่งอาการไมเกรนมี 4 ระยะ ดังนี้
อาการนำ (Prodome symtoms)
ระยะเริ่มแรก จะเกิดขึ้นล่วงหน้า 1-2 วัน เรียกว่าอาการนำ โดยผู้ป่วยมักจะมีอาการต่างกันออกไป เช่น หาวบ่อย อารมณ์แปรปรวน สับสนมึนงง ปวดหัวพร้อมกับมีอาการอื่นๆ ร่วม ปวดตึงบริเวณคอและร่างกาย หรือบางรายอาจพบว่ามีอาการเวียนหัว ท้องผูก วิธีบรรเทาในเบื้องต้นแนะนำให้บรรเทาตามอาการที่เป็น
อาการเตือน หรือบอกล่วงหน้า (Aura)
ระยะต่อมา อาการนำจะเกิดขึ้นโดยในผู้ป่วยแต่ละรายก็จะมีอาการแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่พบว่ามีอาการนำทางการมองเห็น เช่น มองเห็นแสงวิบวับ ตาพร่ามัว เห็นเส้นซิกแซก บางรายอาจจะเคลื่อนไหวลำบาก แขนขาชา กรณีนี้แนะนำให้บรรเทาโดยการนั่งพักจนกว่าจะดีขึ้นหรือหากอาการไม่ดีขึ้น แต่รุนแรงให้รีบพบแพทย์
ระยะมีอาการปวดศีรษะ (Headache)
ระยะที่ 3 คือ ระยะของการมีอาการ บางรายอาจจะพบว่าปวดหัวข้างซ้าย ข้างขวา ปวดจี๊ดๆ หรือปวดตุบๆ แนะนำให้ใช้วิธีแก้ปวดหัวไมเกรนเบื้องต้น นวดประคบ ดื่มน้ำสมุนไพร นอนพักผ่อน หรือถ้าหากอาการไม่ดีขึ้นให้พบแพทย์
ระยะหาย หรือกลับเข้าสู่สภาวะปกติ (Post drome)
ระยะสุดท้าย หลังจากหายอาการปวดหัวไมเกรน มักพบว่าจะมีอาการสับสน อ่อนล้า ไวต่อสิ่งเร้า มึนงง บางรายอาจจะมีอาการท้องหรือท้องผูก แนะนำให้บรรเทาเบื้องต้นตามแต่ละอาการที่พบ เช่น นอนพัก กินยาแก้ท้องเสีย กินยาถ่าย เป็นต้น
อาการปวดไมเกรนมีกี่แบบ
การรู้จักประเภทและรูปแบบของอาการปวดหัวจะช่วยให้เข้าใจลักษณะอาการ ไปจนถึงรูปแบบวิธีการรักษา ซึ่งอาการปวดไมเกรนส่วนใหญ่พบเพียง 3 ประเภท ดังนี้
ไมเกรนแบบมีอาการเตือน (Migrain with aura หรือ Classic Migrain)
กลุ่มแรกที่พบได้บ่อยมากที่สุด โดยในช่วงก่อนที่จะมีอาการปวดจะมีอาการเตือนมาก่อนเสมอ เช่น ตาเริ่มมองเห็นไม่ชัด เห็นภาพซิกแซกบิดเบี้ยว เห็นแสงวูบวาบหรือเห็นภาพเบอล พร่ามัว เป็นต้น วิธีการบรรเทาเบื้องต้น แนะนำให้พักสายตาโดยการนอนพักหรือนั่งพักจนกว่าอาการจะดีขึ้น
ไมเกรนแบบไม่มีอาการเตือน (Migrain without aura หรือ Common Migrain)
อาการไมเกรนแบบไม่มีอาการเตือนพบเป็นกลุ่มใหม่ พบได้มากถึงร้อยละ 70 โดยจะมีลักษณะอาการคือ ปวดหัวข้างขวา ปวดตั้งแต่ระดับเบื้องต้นไปจนถึงระดับรุนแรงมาก วิธีบรรเทาอาการเบื้องต้นแนะนำให้ใช้วิธีนวดแก้ปวดไมเกรน หรือการกินยารักษาไมเกรน เนื่องจากจะช่วยแก้ปวดไมเกรนเร่งด่วนได้
ไมเกรนเรื้อรัง
ประเภทที่ 3 ไมเกรนเรื้อรัง คือ ลักษณะอาการปวดหัวไมเกรนเป็นระยะเวลานานกว่า 72 ชั่วโมง และมีอาการปวดหัวต่อเนื่องติดต่อกันมากกว่า 15 วันต่อเดือน ซึ่งหากรักษาไม่ถูกวิธีหรือละเลยอาการปวดจะนำไปสู่อาการเรื้อรังและสามารถนำไปสู่โรคร้ายอื่นๆ ได้
ไมเกรนเรื้อรังส่งผลเสียอย่างไร
ไมเกรน เป็นโรคที่สร้างความรำคาญใจให้กับผู้ป่วยหลายๆ คน ซึ่งผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการไมเกรนเรื้อรังในระยะยาวมากกว่า 72 ชั่วโมง ย่อมส่งผลกระทบในชีวิตประจำวันและเพิ่มความลำบากในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น ดังนี้
อาการปวดหัวขั้นรุนแรง
อาการปวดหัวขั้นรุนแรง ถึงขั้นต้องตื่นนอนกลางดึกเพราะอาการปวดหัว หรือปวดจนไม่สามารถทำกิจกรรมหรือใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ วิธีการบรรเทาเบื้องต้น แนะนำให้นอนพัก นวดกดจุด ประคบเย็น หรือกินยาแก้ปวดไมเกรนตามคำแนะนำของแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น
ใช้ชีวิตประจำวันลำบากมากขึ้น
แน่นอนว่าด้วยลักษณะอาการของโรคดังกล่าวและอาการปวดหัวที่ติดต่อกันหลายวัน ย่อมส่งผลให้ผู้ป่วยไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ เช่น ไม่สามารถขับรถได้ เนื่องจากอาจมีอาการตาพร่ามัว ไม่สามารถทำงานกลางแสงแดดจ้าได้ เนื่องจากทำให้กระตุ้นการเกิดอาการมากยิ่งขึ้น ทางที่ดีจึงควรหลีกเลี่ยง กินยา และพักผ่อนให้เพียงพอ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้เข้าพบแพทย์ เพื่อทำการปรึกษาว่าปวดไมเกรนรักษาได้กี่วิธี วิธีใดที่เหมาะสม
ภาวะซึมเศร้า
นอกจากอาการไมเกรนเรื้อรังจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายแล้วยังส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตอีกด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้ป่วยจะมีอาการสับสน มึนงง อารมณ์แปรปรวน หรือบางครั้งก็อ่อนล้า ในขณะเดียวกันสารเคมีในสมองอาจทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการเศร้า หงุดหงิด วิตกกังวล หรืออารมณ์แปรปรวนมากยิ่งขึ้น ซึ่งผลเสียขั้นร้ายแรงคือ อาจทำให้คิดทำร้ายร่างกายหรือฆ่าตัวตายได้ แนะนำให้ปรึกษาและรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
วิธีแก้ปวดไมเกรน
ปวดไมเกรนรักษาได้กี่วิธี เป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการรักษาไมเกรน เนื่องจากลักษณะอาการส่งผลให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ และทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ต้องทุกข์ทรมานกับอาการปวดไมเกรน ทั้งนี้วิธีรักษาไมเกรนมีหลายแบบขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการผู้ป่วย แบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
ใช้วิธีการแก้ปวดโดยวิธีทางธรรมชาติ
ผู้ป่วยจำนวนมากพบว่าวิธีแก้ปวดทางธรรมชาติที่เห็นผลดีและได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การนอนหลับพักผ่อนในห้องที่มืดอุณหภูมิ ไม่มีแสง สี หรือกลิ่นรบกวน นอกจากนี้อาจจะเลือกดูแลรักษาและป้องกันด้วยวิธีทางธรรมชาติ ดังนี้
- กินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นกินผลไม้แก้ไมเกรนแทน และงดอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการ เช่น
ของหมักดอง ของทอด ไวน์แดง เนยแข็ง อาหารที่ทำจากนม ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง อาหารที่ปรุงจากชูรสหรือน้ำตาล เป็นต้น - การออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายยืดหยุ่น กล้ามเนื้อคลายตัว ลดอาการหดเกร็ง
โดยอาจจะเลือกออกกำลังกายเบาๆ เช่น วิ่ง เดินเร็ว โยคะ เป็นต้น - การประคบเย็น การประคบเย็นจะช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้ง่ายๆ เพียงนำผ้าเย็นหรือผ้าห่อน้ำแข็งมาประคบบริเวณที่ปวด ก็จะช่วยให้เส้นเลือดคลายตัว อาการปวดลดลง
การรักษาอาการปวดหัวไมเกรนด้วยวิธีทางการแพทย์
ผู้ป่วยบางราย เมื่อใช้วิธีแก้ปวดทางธรรมชาติแล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้น อาจจะเลือกรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ โดยการกินยาแก้ปวดไมเกรน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1. ยาแก้ปวดเฉียบพลัน
สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการปวดหัวเฉียบพลันและต้องแก้ปวดไมเกรนเร่งด่วน แนะนำให้เลือกกินยากลุ่มแก้ปวดเฉียบพลัน เช่น Ibuprofen จัดอยู่ในกลุ่มยาต้านอาการอักเสบไร้สเตียรอย (NSAIDs) ลดอาการปวด Triptan ยารักษาไมเกรน Ergotamine หลอดเลือดหรือสารต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือ Tramadol ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดระดับปานกลางถึงรุนแรง ทั้งนี้ จะต้องปรึกษาเภสัชกรและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนกินยาเสมอ
2. ยาป้องกัน
เพื่อเป็นการป้องกันไมเกรนแบบเฉียบพลัน ผู้ป่วยหลายคนเลือกกินยากลุ่มที่ใช้ป้องกันก่อน ดังนี้
- ยากลุ่มลดความดัน Propranolol นิยมใช้ลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดไมเกรน
- กลุ่มยาต้านอาการซึมเศร้า Amitriptyline ใช้รักษาอาการจากโรคซึมเศร้า ตลอดจนรักษาอาการปวดจากระบบประสาท โดยเฉพาะป้องกันอาการปวดไมเกร
- กลุ่มยากันชัก
การรักษาอาการปวดหัวไมเกรนโดยวิธีทางเลือก
นอกจาก 2 วิธีในข้างต้นแล้ว ปัจจุบันยังมีการรักษาอาการปวดหัวไมเกรนด้วยวิธีทางเลือกที่น่าสนใจและได้รับความนิยมสูงไม่แพ้กัน ดังนี้
- นวดกดจุด
การนวดกดจุด จะใช้แรงกดของกล้ามเนื้อมือและนิ้ว นวดกดบริเวณจุดที่ปวดหรือจุดสำคัญ ด้วยแรงที่เหมาะสมและวิธีที่ถูกต้อง โดยเชื่อว่าคนเรามีพลังชีวิตหรือ ชี่ (Qi) และเส้นลมปราณทั่วร่างกาย การนวดกดจุดจะช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะภายในร่างกาย ปรับสมดุล ลดอาการปวดไมเกรน รวมถึงอาการออฟฟิศซินโดรมได้เป็นอย่างดี - กระตุ้นไฟฟ้า
การกระตุ้นไฟฟ้าหรือ TMS (Transcranial Magnetic Stimulation) เป็นการกระตุ้นสมองด้วยสนามไฟฟ้าแม่เหล็ก นิยมใช้สำหรับการรักษาโรคไมเกรน โรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงโรคย้ำคิดย้ำทำ ซึ่งวิธีนี้จะไม่ต้องเจ็บจากการผ่าตัด ไม่ต้องดมยาวลบ รวมถึงมีความปลอดภัยสูง ใช้เวลาเพียง 30-60 นาทีเท่านั้น - การใช้โบท็อก
การฉีดโบท็อกไมเกรนเป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมสูงและปลอดภัย ซึ่งวิธีนี้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาและประทเศไทย หมดกังวลเรื่องอันตราย โดยทางการแพทย์จะทำการฉีด botulinum toxin รักษาไมเกรน ตามจุดต่างๆ ที่แพทย์กำหนด เช่น คอ บ่า ไหล่ รอบศีรษะ หลังจากฉีดยาเพียง 3-4 วันก้จะออกฤทธิ์ยาวนานถึง 3-4 เดือน
ทั้งนี้ การฉีดโบท็อกช่วยไมเกรนจะช่วยลดความถี่และความรุนแรงในการปวดหัวได้สูงถึง 60-70% นับว่าเป็นวิธีการรักษาที่เห็นผลระยะยาว ปลอดภัย และคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไป
ข้อสรุป
ปวดไมเกรนรักษาได้กี่วิธี คำตอบคือ มีหลากหลายวิธี ทั้งวิธีธรรมชาติ วิธีทางการแพทย์ และวิธีทางเลือก เช่น การฉีดโบท็อกแก้ปวด การนวดกดจุด ซึ่งแพทย์จะทำการตรวจไมเกรน วัดระดับความรุนแรงของอาการ ก่อนจะทำการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
หากใครที่สนใจรักษาด้วยวิธีฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน สามารถแอดไลน์ @ayaclinic หรือโทรเบอร์ 090–970-0447 เพื่อพูดคุย ขอคำปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ BTX Migraine Center ศูนย์รักษาไมเกรนเฉพาะทาง ตลอดจนทำการตรวจโรคไมเกรนและเข้ารักษาอย่างปลอดภัยและถูกวิธี
เอกสารอ้างอิง :
Kendall K. Morgan. (2022). Transcranial Magnetic Stimulation (TMS) for Chronic Migraine. Retrieve by https://www.webmd.com/migraines-headaches/transcranial-magnetic-stimulation-tms-migraine