รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วย Prolotherapy ทางเลือกใหม่ในการบรรเทาปวด

รักษาออฟฟิศซินโดรมบรรเทาอาการปวดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายโดยเฉพาะช่วงคอ บ่า ไหล่ หรือหลัง เชื่อว่าหลายคนที่ทำงานหน้าคอมวันละหลายชั่วโมงต้องเคยเจอแน่นอน ปัญหานี้ที่เราเรียกกันติดปากว่า “ออฟฟิศซินโดรม” ไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อยที่พอพักผ่อนก็หาย เพราะเมื่อปล่อยไว้นานๆ อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันโดยไม่รู้ตัว

แม้หลายคนจะพยายามหาทางออกด้วยการนวด จัดกระดูก หรือทานยาแก้ปวด แต่ก็พบว่าอาการดีขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ล่าสุดมีหนึ่งทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจในวงการเวชศาสตร์ฟื้นฟูอย่าง Prolotherapy หรือการฉีดกระตุ้นเนื้อเยื่อให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองตามธรรมชาติ ซึ่งเริ่มเป็นที่พูดถึงในกลุ่มคนที่อยากแก้ปวดคอ บ่า ไหล่แบบลึกถึงต้นตอ ไม่ใช่แค่บรรเทาแบบผิวเผิน

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ Prolotherapy ว่ามันคืออะไร เหมาะกับใคร ใช้รักษาออฟฟิศซินโดรมได้ยังไง และช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าทางเลือกนี้เหมาะกับคุณหรือไม่

สารบัญบทความ

Prolotherapy คืออะไร?

Prolotherapy เป็นการรักษาอาการปวดเรื้อรังที่ชื่ออาจดูใหม่สำหรับหลายคน แต่จริงๆ แล้วถูกใช้ในวงการแพทย์ฟื้นฟูมายาวนานพอสมควร วิธีนี้คือการฉีดสารที่ปลอดภัยลงไปในบริเวณที่มีอาการปวด เช่น เอ็น ข้อต่อ หรือจุดเกาะของกล้ามเนื้อ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการอักเสบเล็กน้อยในจุดนั้น ซึ่งฟังดูอาจขัดใจนิดหน่อยเพราะเราเคยชินกับการพยายามลดอักเสบมากกว่า แต่ในกรณีนี้การอักเสบเล็กน้อยคือกระบวนการธรรมชาติที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองมากขึ้น

Prolotherapy ไม่ได้เน้นแค่การลดอาการปวดแบบเฉพาะหน้า แต่เป็นการเข้าไปรักษาที่ต้นตอของปัญหา เช่น จุดที่เส้นเอ็นเสื่อม หรือบริเวณที่ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังจากการใช้งานแบบเดิมทุกวัน อย่างที่หลายคนเจอกับออฟฟิศซินโดรม จุดเด่นของการรักษานี้คือไม่ต้องผ่าตัด ไม่ใช้ยาแรง และไม่ต้องพักฟื้นนาน จึงเริ่มเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ที่อยากดูแลตัวเองแบบยั่งยืน

ฉีดยากล้ามเนื้ออักเสบ

หลักการทำงานของ Prolotherapy

เบื้องหลังของการรักษาอาการปวดเรื้อรังด้วยวิธีนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย Prolotherapy ทำงานด้วยแนวคิดที่ต่างจากการกินยาแก้ปวดหรือฉีดยาชา เพราะแทนที่จะหยุดความรู้สึกเจ็บแบบชั่วคราว แต่มันเลือกที่จะกระตุ้นให้ร่างกายเรารักษาตัวเองจากภายใน โดยสารที่ฉีดเข้าไปส่วนใหญ่จะเป็นน้ำตาลกลูโคสความเข้มข้นสูง ทำให้เกิดการอักเสบเล็กน้อยในจุดที่มีปัญหา ซึ่งถือเป็นสัญญาณเรียกร่างกายให้ส่งเซลล์ซ่อมแซมเข้ามาทำงานมากขึ้น เหมือนเป็นการปลุกระบบซ่อมแซมที่อาจหลับใหลเพราะการใช้งานซ้ำๆ มานานเกินไป การฉีดนี้จะทำเป็นจุดๆ บริเวณที่เส้นเอ็น ข้อต่อ หรือกล้ามเนื้อมีความเสื่อม จึงช่วยลดความปวดเรื้อรังและฟื้นฟูการใช้งานในระยะยาวได้ดี

ประโยชน์และข้อดีของ Prolotherapy

  • แก้ปวดจากต้นตอ ไม่ใช่แค่บรรเทาชั่วคราว

จุดเด่นของ Prolotherapy คือการฟื้นฟูเนื้อเยื่อให้กลับมาแข็งแรง จึงช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังได้ในระยะยาว ไม่ใช่แค่บรรเทาแบบระงับความรู้สึก

  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

เหมาะกับคนยุคใหม่ที่ไม่มีเวลาหยุดงานนานๆ เพราะหลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที หรือพักเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

  • ช่วยฟื้นฟูเส้นเอ็น ข้อต่อ และกล้ามเนื้อที่เสื่อมจากการใช้งานซ้ำๆ

โดยเฉพาะคนที่มีพฤติกรรมซ้ำๆ เช่น นั่งหน้าคอมนานๆ หรือยกของในท่าเดิมทุกวัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของออฟฟิศซินโดรม

  • ลดการใช้ยาแก้ปวดและเลี่ยงผลข้างเคียงจากยาแรง

สำหรับคนที่ไม่อยากพึ่งยาแก้ปวดบ่อยๆ การฉีด Prolotherapy ก็เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและอ่อนโยนกับร่างกายมากกว่า

ออฟฟิศซินโดรม  สาเหตุและอาการปวด

ใครที่เคยนั่งทำงานหน้าคอมนานๆ แล้วรู้สึกปวดคอ บ่า ไหล่ หรือหลัง ลองขยับแล้วมีเสียงกร๊อบแกร๊บ หรือบางครั้งถึงกับปวดจนทำงานต่อไม่ไหว นั่นอาจไม่ใช่แค่ความเหนื่อยล้าทั่วไป แต่อาจเป็นออฟฟิศซินโดรมที่เริ่มส่งสัญญาณว่าร่างกายกำลังอยู่ในท่าทางที่ไม่เหมาะสมบ่อยเกินไป โรคนี้อาจไม่ได้ฟังดูอันตราย แต่ถ้าปล่อยไว้นานก็สามารถกลายเป็นปัญหาเรื้อรังได้แบบไม่รู้ตัว เพราะอาการเจ็บเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเคยมองข้าม อาจพัฒนาไปสู่จุดที่กระทบทั้งการใช้ชีวิตและสุขภาพจิตในที่สุด

สาเหตุของออฟฟิศซินโดรม

  • นั่งทำงานในท่าเดิมนานเกินไป ท่าที่ดูชิลล์อย่างการนั่งหลังค่อม หรือนั่งไขว่ห้างหน้าจอคอมตลอดทั้งวัน อาจเป็นตัวการที่ทำให้กล้ามเนื้อบางส่วนตึงเกินไปและบางส่วนอ่อนแรงลง จนเกิดอาการปวดตามจุดต่างๆ
  • การใช้เมาส์หรือคีย์บอร์ดแบบไม่เหมาะสม มือวางสูงไป ต่ำไป หรือไม่มีที่รองข้อมือ ก็อาจทำให้เกิดการกดทับของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อบริเวณข้อมือ แขน และบ่า
  • ขาดการเคลื่อนไหวและการยืดเหยียด พฤติกรรมนั่งยาวๆ ไม่ลุกเลย เป็นอีกหนึ่งสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี และทำให้กล้ามเนื้อบางจุดอักเสบได้ง่าย
  • ความเครียดสะสม ส่งผลถึงกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดอาการตึงเกร็งสะสมโดยไม่รู้ตัว

อาการปวดจากออฟฟิศซินโดรม

  • ปวดคอ บ่า ไหล่ หรือหลังแบบไม่ทราบสาเหตุชัดเจน มักเริ่มจากความตึงเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ลามเป็นอาการปวดลึกๆ ที่ไม่หายขาดง่าย
  • รู้สึกชา ปวดร้าว หรือเสียวแปล๊บไปตามแขน มือ หรือขา เกิดจากการกดทับเส้นประสาทบริเวณต้นคอหรือหลังส่วนล่าง
  • ปวดศีรษะหรือปวดตึงท้ายทอย เกิดจากกล้ามเนื้อคอและไหล่ตึงตัว จนส่งผลต่อระบบไหลเวียนเลือดและทำให้เกิดอาการปวดหัวร่วมด้วย
  • ขยับคอ ไหล่ หรือหลัง แล้วมีเสียงดัง เป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่ากล้ามเนื้อหรือข้อต่อเริ่มเสื่อมจากพฤติกรรมการนั่งหรือเคลื่อนไหวที่ไม่เหมาะสม

อาการแบบไหนเป็นออฟฟิศซินโดรม

ปัจจัยที่ส่งเสริมอาการปวดออฟฟิศซินโดรม

แม้ออฟฟิศซินโดรมจะเกิดจากท่าทางซ้ำๆ เป็นหลัก แต่ก็มีหลายปัจจัยที่ทำให้อาการปวดนั้นแย่ลงหรือเรื้อรังมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ลองเช็กดูว่าคุณกำลังเจอสิ่งเหล่านี้อยู่หรือเปล่า

  • โต๊ะ-เก้าอี้ที่ไม่เหมาะกับสรีระ : ถ้าโต๊ะเตี้ยไป เก้าอี้สูงไป หรือไม่มีที่รองหลังดีๆ ก็อาจทำให้ร่างกายอยู่ในท่าทางผิดธรรมชาติทั้งวัน
  • วางหน้าจอคอมผิดตำแหน่ง : จอมอนิเตอร์ที่วางต่ำเกินไปหรือเอียงทำให้ต้องก้มคอนานๆ ส่งผลให้กล้ามเนื้อคอและหลังตึงตัวเกินความจำเป็น
  • ไม่เปลี่ยนอิริยาบถเลยทั้งวัน : นั่งทำงานติดเก้าอี้จนลืมลุก ขาดการเคลื่อนไหวหรือยืดเหยียด คืออีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ระบบกล้ามเนื้อ-กระดูกล้าและเสื่อมเร็วกว่าปกติ
  • ใช้มือถือ-แท็บเล็ตบ่อยแบบโน้มคอลง : พฤติกรรมก้มดูมือถือเป็นเวลานาน เรียกว่า Text Neck ก็เป็นหนึ่งในต้นเหตุที่กระทบกล้ามเนื้อคอและบ่าโดยตรง
  • เครียดสะสม พักผ่อนไม่พอ : ความเครียดมีผลต่อระบบกล้ามเนื้อ ทำให้ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังได้ แถมถ้านอนน้อยก็ทำให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้ช้าลงอีกด้วย
  • ไม่มีการออกกำลังกายเสริมกล้ามเนื้อ : ถ้าร่างกายไม่มีความแข็งแรงรองรับการนั่งทำงานนานๆ ก็จะยิ่งเกิดอาการล้า ปวด และอักเสบง่ายขึ้น

นั่งผิดท่า

ความเกี่ยวข้องระหว่าง Prolotherapy กับอาการปวดออฟฟิศซินโดรม

หลายคนที่มีอาการปวดจากออฟฟิศซินโดรมมักแก้ด้วยการนวด ยืดเส้น หรือกินยาแก้ปวด ซึ่งก็ช่วยบรรเทาได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าปวดเรื้อรังซ้ำๆ อยู่ที่จุดเดิมไม่หายขาดสักที นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังมีปัญหา ซึ่งทำให้ Prolotherapy เข้ามามีบทบาทในการรักษามากขึ้น

สำหรับคนที่ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังจากออฟฟิศซินโดรม ส่วนใหญ่มักเกิดจากเส้นเอ็นอักเสบหรือเสื่อมตามจุดที่ใช้งานซ้ำๆ อย่างคอ บ่า หรือหลัง การฉีด Prolotherapy จึงช่วยได้ตรงจุด เพราะมันไม่ได้แค่บรรเทาอาการ แต่เข้าไปปลุกระบบซ่อมแซมของร่างกายให้กลับมาทำงานเต็มที่อีกครั้ง ด้วยการฉีดสารกระตุ้นเข้าไปที่เนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายส่งเซลล์ซ่อมแซมมาช่วยฟื้นฟูในบริเวณนั้น

วิธีรักษาอาการปวดออฟฟิศซินโดรมในปัจจุบัน

ปวดคอ บ่า ไหล่ จนทำงานไม่ได้เต็มที่ เป็นเรื่องที่หลายคนเผชิญอยู่ทุกวัน ซึ่งโชคดีที่ทุกวันนี้มีวิธีรักษาออฟฟิศซินโดรมให้เลือกตามอาการและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ตั้งแต่การกายภาพบำบัดไปจนถึงการรักษาที่ฟื้นฟูเชิงลึกอย่าง Prolotherapy มาดูกันว่าแต่ละวิธีมีข้อดีอย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง

การรักษาทางกายภาพบำบัด

การกายภาพบำบัด (Physiotherapy) เป็นวิธีเบสิคที่หลายคนทำเพื่อรักษาออฟฟิศซินโดรม เพราะไม่เจ็บตัว ไม่ใช้ยา และปลอดภัยกับทุกเพศทุกวัย โดยนักกายภาพจะใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การนวดคลายกล้ามเนื้อ การดัดยืด การใช้คลื่นไฟฟ้าหรืออัลตราซาวด์ เพื่อช่วยลดอาการตึงและฟื้นฟูการเคลื่อนไหว

ข้อดีคือช่วยบรรเทาอาการปวดในช่วงเริ่มต้นได้ดี และเหมาะมากสำหรับคนที่พึ่งเริ่มมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หรือมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น นั่งนาน ยืนนาน แต่ยังไม่มีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง

การใช้ยาและการฉีดบรรเทาปวด

ถ้าอาการปวดเริ่มรุนแรงหรือเรื้อรังจนรบกวนการใช้ชีวิต หลายคนก็เลือกใช้วิธีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการกินยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือการฉีดยาชา/สเตียรอยด์เฉพาะจุดเพื่อลดอาการอักเสบ

ข้อดีคือเห็นผลเร็วทันใจ แต่ข้อเสียคือวิธีนี้เป็นการระงับอาการ ไม่ใช่การรักษาที่ต้นตอ และถ้าใช้ต่อเนื่องบ่อยๆ อาจมีผลข้างเคียงกับตับ ไต หรือกระดูกได้ในระยะยาว จึงเหมาะสำหรับการใช้เป็นช่วงๆ หรือในกรณีที่ปวดมากจริงๆ เท่านั้น

การใช้ Prolotherapy เพื่อรักษาออฟฟิศซินโดรม

สำหรับคนที่เจอปัญหาปวดซ้ำๆ แบบเป็นจุดเดิมตลอด หรือรู้สึกว่าไปกายภาพแล้วก็ดีขึ้นแค่ชั่วคราว Prolotherapy ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในการรักษาออฟฟิศซินโดรม เพราะเน้นการกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง ไม่ใช่แค่บรรเทาอาการ โดยแพทย์จะฉีดสารกระตุ้นที่ปลอดภัยเข้าไปที่จุดที่มีปัญหา เช่น บ่า หลัง หรือคอ เพื่อให้เกิดการอักเสบเล็กน้อย และส่งสัญญาณให้ร่างกายเข้าไปซ่อมแซมจุดนั้นแบบจัดเต็ม วิธีนี้นิยมใช้ในการรักษาอาการปวดเรื้อรังจากพฤติกรรมการทำงานซ้ำๆ และอยากฟื้นฟูแบบยั่งยืน ไม่อยากพึ่งยา หรือหลีกเลี่ยงการผ่าตัดในอนาคต

Prolotherapy

การป้องกันอาการปวดออฟฟิศซินโดรม

อาการปวดจากออฟฟิศซินโดรม ถ้าปล่อยไว้นานก็สามารถลุกลามกลายเป็นอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังที่รบกวนการใช้ชีวิตได้ไม่น้อย ดังนั้นการป้องกันไว้ก่อนด้วยพฤติกรรมง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องเจอกับอาการปวดซ้ำๆ แบบไม่รู้จบ เรามาดูวิธีป้องกันออฟฟิศซินโดรมที่ได้ผลกันดีกว่า

  • ปรับท่านั่งให้เหมาะกับสรีระ เลือกเก้าอี้ที่รองรับหลังได้ดี เท้าควรแตะพื้นเต็มๆ และหน้าจอคอมควรอยู่ระดับสายตา ไม่ต้องก้ม ไม่ต้องเงย
  • ลุกเปลี่ยนท่าทุกๆ 30-60 นาที แค่ลุกเดิน ยืดเส้น หรือบิดตัวเบาๆ ก็ช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อได้มากกว่าที่คิด
  • ฝึกยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำ ใช้เวลาแค่วันละ 5-10 นาที ยืดกล้ามเนื้อช่วงคอ บ่า ไหล่ หลัง หรือจะลองฝึกโยคะเบาๆ ก็ช่วยให้ร่างกายยืดหยุ่นขึ้นเยอะ
  • ลดการก้มดูมือถือแบบโน้มคอ แนะนำให้ยกมือถือขึ้นมาในระดับสายตา หรือใช้ที่วางแทนการก้มตลอดเวลา จะช่วยลดแรงกดที่คอได้มาก
  • ออกกำลังกายเสริมกล้ามเนื้อหลังและแกนกลางลำตัว (Core) การมีมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรงจะช่วยให้คุณนั่งได้นานขึ้นโดยไม่ล้า ไม่ปวดเร็ว
  • พักสายตาและผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา อย่าลืมกฎ 20-20-20 ทุกๆ 20 นาที ให้มองออกไปไกล 20 ฟุต นาน 20 วินาที ช่วยลดความเครียดจากการจ้องจอได้
  • จัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการทำงาน แสงสว่าง โต๊ะทำงาน หรือแม้แต่เสียงรบกวน ล้วนส่งผลต่อท่าทางและความเครียดโดยรวม ปรับให้เหมาะกับตัวเองที่สุดจะช่วยให้ทำงานได้สบายขึ้น

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมออฟฟิศซินโดรม

ข้อสรุป

ออฟฟิศซินโดรมอาจฟังดูเหมือนเรื่องเล็กที่ใครๆ ก็เจอได้ แต่ถ้าไม่ใส่ใจ อาการเล็กๆ เหล่านี้สามารถกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้แบบไม่รู้ตัว การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันควบคู่กับการรักษาอย่างเหมาะสมจึงเป็นทางออกที่ยั่งยืน และสำหรับใครที่มีอาการปวดซ้ำๆ ไม่หายขาดเสียที

แอดไลน์