อาการปวดหัวไมเกรนในคนท้อง กินยาได้ไหม? มีวิธีบรรเทาอย่างไร?
หากคนท้องปวดหัว ก็อาจจะต้องหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร คนท้องปวดหัวบ่อย อันตรายไหม เกี่ยวกับไมเกรนหรือไม่ ตลอดจนจะต้องรักษาหรือกินยาอะไรเพื่อรักษา บทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลคนท้องกับอาการปวดหัวมาให้แล้ว
สารบัญบทความ
- คนท้องปวดหัว
- อาการปวดหัวในคนท้อง
- คนท้องปวดหัว เกิดจากสาเหตุใด
- คนท้องปวดหัวบ่อย อันตรายไหม
- อาการปวดหัวขณะตั้งครรภ์ที่ควรพบแพทย์
- คนท้องปวดหัว มีวิธีรักษาบรรเทาอย่างไร
- ข้อห้ามในการใช้ยาแก้ปวดหัวในคุณแม่ตั้งครรภ์
- วิธีดูแลตัวเองสำหรับคนท้องที่มีอาการปวดหัว
- ข้อสรุป
คนท้องปวดหัว
อย่างไรก็ดี อาการปวดหัวในคนท้องจะส่งผลให้มีอาการปวดหัวแตกต่างกันออกไป ตามแต่ละบุคคล โดยอาการเหล่านี้อาจจะส่งผลต่อบุตรในครรภ์ ตลอดจนการคลอดได้ ทำให้คนท้องกับอาการปวดหัวจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เมื่อมีอาการควรปรึกษาแพทย์และทำการตรวจรักษาในลำดับต่อไป
อาการปวดหัวในคนท้อง
อย่างไรก็ดี อาการปวดหัวในคนท้อง อาจจะพบได้บ่อยในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ฉะนั้นในช่วงไตรมาส 3 หรือ 2 คุณแม่ตั้งครรภ์จำเป็นจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
อาการปวดหัวในคนท้องมักพบในไตรมาสใด
อาการปวดหัวในคนท้องมักพบได้บ่อยในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 เนื่องจากระดับฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่จะสูงกว่าปกติ ช่วงนี้ร่างกายอาจจะอ่อนแอทำให้มีการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ มีอาการตึงกล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่ การยืน การนั่ง ตึงจนปวดหัวท้ายทอย ตลอดจนมีความเครียด ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายและรวดเร็ว จนเกิดอาการปวดหัวตอนท้อง
คนท้องปวดหัว เกิดจากสาเหตุใด
การที่คนท้องปวดหัวบ่อย ๆ ถือว่าไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่อาจจะต้องทราบสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อรักษาอย่างถูกวิธีและเพื่อระมัดระวังตนเอง ซึ่งสาเหตุของอาการปวดหัวของคนท้อง มีดังนี้
1. ระดับฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง
เมื่อระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในคุณแม่ตั้งครรภ์คือ อาการปวดหัวข้างเดียว ปวดหัวข้างซ้าย หรือปวดหัวตุ้บ ๆ แต่ในระยะเวลาต่อมาอาการจะเริ่มบรรเทาลง ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะระดับฮอร์โมนลดลงต่ำ แต่เป็นเพราะว่าร่างกายสามารถปรับตัวได้และคุ้นชินกับลักษณะอาการดังกล่าวมากขึ้นนั่นเอง
2. ภาวะเครียดและวิตกกังวล
เป็นธรรมดาที่คุณแม่มือใหม่จะเกิดความรู้สึกเครียดหรือกังวลในบางครั้ง ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวจากความเครียด โดยลักษณะคือจะปวดหัวเหมือนถูกกด บีบ หรือรัดรอบศีรษะ โดยส่วนใหญ่มักมีอาการปวดหัวท้ายทอย ปวดร้าวไปทั่วบริเวณ ตลอดจนปวดหัวคิ้ว อย่างไรก็ดี อาการเหล่านี้จะเกิดตั้งแต่ช่วง 30 นาทีเป็นต้นไป
3. พักผ่อนไม่เพียงพอ
คนท้องมีอาการปวดหัว อาจจะเกิดจากอาการพักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากคุณแม่มือใหม่อาจจะรู้สึกอึดอัด นอนไม่ค่อยหลับ หรือมีความกังวลจนทำให้นอนไม่หลับ จนส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวคลื่นไส้ได้ ดังนั้นจึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่มือใหม่และลูกน้อยในครรภ์
4. การขาดสารอาหาร
เนื่องจากคุณแม่มือใหม่หลาย ๆ คนอาจจะเลือกรับทานอาหารหรืองดอาหาร เพราะกลัวว่าน้ำหนักจะขึ้น หรือในบางครั้งก็กินอาหารเกินน้อยไป เพราะมีลูกน้อยในครรภ์อีกหนึ่งคน ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารทั้งในตอนกลางคืนหรือหิวอาหารระหว่างวัน ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวในคนท้องได้ง่าย ๆ
5. ภาวะขาดน้ำ
การเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ ขณะท้องอาจจะเป็นเรื่องยากและสร้างความอึดอัดให้กับคุณแม่ได้ เนื่องจากลุกยืนหรือนั่งชักโครกอาจจะทำให้ไม่สบายตัว จึงทำให้คุณแม่หลาย ๆ คนดื่มน้ำน้อยกว่าปกติ และเข้าสู่ภาวะขาดน้ำ นำไปสู่อาการปวดหัวไมเกรนตอนท้องได้ในที่สุด
6. การงดเครื่องดื่มคาเฟอีน
อย่างที่ทราบกันดีว่าเครื่องดื่มชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ ที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบอาจจะออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ดังนั้น การดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้มากเกินไปจะส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวได้ แต่หากงดการดื่มทันทีก็อาจจะส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวในคนท้องได้เช่นเดียวกัน จึงต้องดื่มอย่างเหมาะสม
7. ท่ายืนหรือนั่งที่ไม่เหมาะสม
เมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 3 คุณแม่หลาย ๆ คนอาจจะมีขนาดท้องที่ใหญ่ขึ้น ทำให้การขยับตัว เดิน ยืน หรือนั่งลำบาก เนื่องจากร่างกายต้องรับน้ำหนักมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้อตึงตัว เส้นคอตึงได้ ในช่วงไตรมาสดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งที่บอกว่าอาจจะเกิดความดันโลหิตสูงหรือครรภ์เป็นพิษได้
คนท้องปวดหัวบ่อย อันตรายไหม
คนท้องปวดหัวพบได้บ่อย ๆ แต่หากมีอาการปวดหัวรุนแรงและบ่อย อาจจะเกิดอันตรายได้ คือ ภาวะครรภ์เป็นพิษ ความดันโลหิตสูง สายตาพร่ามัว เวียนหัว รวมถึงความผิดปกติของระบบการทำงานต่าง ๆ ในร่างกาย
ทั้งนี้ หากมีอาการผิดปกติพร้อม ๆ กับอาการปวดหัว แม้ว่าจะทานยาแก้ปวดหัวสำหรับคนท้อง แต่ก็ยังไม่หายหรือไม่บรรเทาลง ก็อาจจะต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยโรค ซึ่งอาการปวดหัวในคนท้องที่ควรพบแพทย์ มีดังนี้
- มีไข้และคอตึงแข็งร่วมด้วย
- ปวดหัวรุนแรงเฉียบพลัน
- ปวดหัวช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
- ตาพร่ามัว ปวดเสียดบริเวณท้อง คลื่นไส้ เวียนหัว น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมือหน้ามีอาการบวม
- ประสิทธิภาพในการพูดและการรับรู้เปลี่ยนแปลงไป
- ปวดหัวหลังจากได้รับอุบัติเหตุ
อาการปวดหัวขณะตั้งครรภ์ที่ควรพบแพทย์
- คุณแม่ท้องที่เป็นโรคภูมิแพ้
- คุณแม่ท้องที่มีภาวะซึมเศร้า
- คุณแม่ท้องที่มีภาวะความดัน โลหิตสูง
- คุณแม่ท้องที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ
นอกจากนี้ หากมีอาการปวดหัวในคนท้องที่แปลกหรือเปลี่ยนไปดังต่อไปนี้ อาจจะต้องรีบพบแพทย์เช่นกัน เนื่องจากอาจเสี่ยงภาวะครรภ์เป็นพิษหรือภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ได้
- อาการปวดหัวพร้อม ๆ กับตามัว
- คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว
- ปวดตรงบริเวณลิ้นปี่
- บวมบริเวณใบหน้า เท้า มือ
- ความดันขึ้นสูงกว่า 160/100 มิลลิเมตรปรอท
- ในปัสสาวะตรวจพบโปรตีนจำนวนมาก
- หากอาการรุนแรงมากขึ้นจะมีอาการเลือดออกสมองและน้ำคั่งในสมองร่วมด้วย
คนท้องปวดหัว มีวิธีรักษาบรรเทาอย่างไร
เมื่อคนท้องปวดหัว แน่นอนว่าจะต้องหาวิธีรักษาเป็นอันดับแรกๆ เนื่องจากเป็นห่วงลูกน้อย ซึ่งหลายๆ คนก็เลือกมองหายารักษาอาการปวดหัว แต่ความจริงแล้วนั้น ไม่จำเป็นต้องทานยาแก้ปวดหัวเสมอไป เนื่องจากอาจจะเป็นอันตรายต่อลูกน้อยและตัวคุณแม่เองได้
อย่างไรก็ดี หากคนท้องปวดหัวหรือมีอาการปวดหัวในคนท้องดังที่กล่าวมาในข้างต้น ควรรักษาและบรรเทาอาการง่าย ๆ ได้ดังต่อไปนี้
1.การประคบร้อนหรือประคบเย็น
2. การแช่น้ำอุ่นผ่อนคลายความเครียด
3. การเปลี่ยนท่านั่งและอิริยาบทให้เหมาะสม
4. การออกกำลังกายเบาๆ
อย่างไรก็ตาม ในการออกกำลังกายยังต้องตระหนักไว้เสมอว่าไม่ควรออกกำลังกายหักโหมหรือรุนแรงเกินไป หรือหากคุณแม่ท่านใดที่มีโรคประจำตัว โรคหอบหืด โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือโรคตับ ไต ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยทั้งตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์
ข้อห้ามในการใช้ยาแก้ปวดหัวในคุณแม่ตั้งครรภ์
แต่สำหรับคนท้องที่มีอาการปวดหัวหรือปวดศีรษะไมเกรน อาจจะเกิดความสงสัยว่าจะสามารถกินยาตามปกติได้หรือไม่ ยาแก้ปวดหัวที่คนท้องกินได้คือยาอะไร ซึ่งอาจจะมีข้อห้ามใช้ยา ดังต่อไปนี้
- ห้ามไม่ให้ทานยาจำพวกลดการอักเสบที่ไม่มีสเตียรอยด์ เช่น Ibuprofen, Ponstan, Diclofenac เนื่องจากจะทำให้หลอดเลือดขยาย
- ห้ามทานยาไมเกรน เช่น ยา Ergotamine เนื่องจากจะทำให้น้ำคร่ำลดลง
อย่างไรก็ดี ยาแก้ปวดที่คนท้องสามารถทานได้คือ ยาพาราเซตามอล แต่ควรปรึกษาแพทย์และทานในปริมาณที่เหมาะสมกับน้ำหนักและร่างกาย
วิธีดูแลตัวเองสำหรับคนท้องที่มีอาการปวดหัว
- หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นไมเกรน เช่น ผงชูรส น้ำตาลเทียม ชีส ไวน์แดง เนื้อสัตว์แปรรูป ช็อกโกแล็ต เป็นต้น และควรทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัวแทน
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อลดอาการปวดหัวและลดความเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-9 ชั่วโมง ซึ่งหากพบว่าในช่วงกลางคืนนั้นนอนไม่เต็มอิ่ม ก็ควรงีบพักบริเวณกลางวันแทนได้
- ไม่ควรปล่อยให้ร่างกายหิว เนื่องจากจะทำให้เกิดอาการปวดหัว ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งส่งผลเสียต่อทั้งลูกในครรภ์และตัวคุณแม่เอง
- ควบคุมความเครียดและพยายามผ่อนคลายกล้ามเนื้อ โดยอาจจะดูภาพยนตร์ที่ชอบ อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือนั่งสมาธิ เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย
- หลีกเลี่ยงการเล่นโทรศัพท์หรือจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะส่ผงลให้เกิดความเครียด ปวดบริเวณดวงตา และปวดหัวได้
ข้อสรุป
สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่แพ้ท้อง ปวดหัวหรือมีอาการปวดหัวในคนท้องไม่ควรมองข้ามหรือหายาแก้ปวดมาทานเอง แต่ควรปรึกษาแพทยืผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนใช้วิธีแก้ปวดหรือวิธีดูแลตนเองในเบื้องต้นร่วมด้วย
แต่หากใครที่พบว่าตนเองมีอาการปวดหัวไมเกรน ก็สามารถเข้ารับปรึกษา คำแนะนำเกี่ยวกาับการรักษารูปแบบต่าง ๆ เช่น โบท็อกไมเกรน กินยาแก้ปวด การฝังเข็ม ตลอดจนตรวจไมเกรนกับทาง BTX Migraine Center หรือศูนย์รักษาไมเกรนเฉพาะทางที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือได้ง่าย ๆ เพียงแค่ @ayaclinic หรือโทร 090–970-0447 ได้ทันที
เอกสารอ้างอิง
Noreen Iftikhar. (2019). Headache During Pregnancy: What You Need to Know. Retrieve from https://www.healthline.com/health/pregnancy/headache-during-pregnancy