ปวดหัวจากความเครียด (Tension Headache) วิธีบรรเทารักษา รับมืออย่างไรดี ควรกินยาอะไร?
“อาการปวดหัว” เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอาการที่หลาย ๆ คนต้องเคยพบเจอ โดยอาจจะเกิดจากการตากฝน เป็นไข้ ดื่มแอลกอฮอล์ โรคภัยต่าง ๆ แต่หนึ่งในสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวคือ ความเครียด
อาการปวดหัวจากความเครียดนั้นเป็นภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากในยุคปัจจุบันนี้สภาพแวดล้อม การเรียน การทำงานนั้นส่งผลให้หลาย ๆ คนเกิดความเครียดและนำไปสู่อาการปวดได้
บทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเพื่อคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับปวดหัวเพราะเครียดเกิดจากอาการอื่น ๆ ได้หรือไม่ ต่างจากไมเกรนอย่างไร ปวดหัวจากความเครียดกินยาอะไร หรือต้องเลี่ยงอาหารประเภทใด ตลอดจนปวดหัวจากความเครียด รักษาได้อย่างไรบ้าง
สารบัญบทความ
- ปวดหัวจากความเครียด (Tension Headache)
- เครียดแล้วปวดหัวเกิดจากอะไร
- ปวดหัวจากความเครียดมีอาการอย่างไร
- เปรียบเทียบปวดหัวจากความเครียดกับโรคไมเกรน
- เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์
- การวินิจฉัยอาการปวดหัวจากความเครียด
- วิธีแก้อาการปวดหัวจากความเครียด
- แนวทางการป้องกันการปวดหัวจากความเครียด
- ข้อสรุป
ปวดหัวจากความเครียด (Tension Headache)
อาการปวดหัวจากความเครียด จะมีลักษณะปวดหัวแบบตึงตัว (Tension Headache) ลักษณะเหมือนกับการถูกรัด กด บีบ รวบบริเวณหัว ทั้งนี้อาการจะเริ่มจากการปวดหัวท้ายทอยก่อนมักมีอาการเริ่มที่ท้ายทอย บ่า ไหล่
จากนั้นจะปวดร้าวไปบริเวณขมับทั้ง 2 ข้าง ก่อนจะลามไปยังบริเวณรอบหัว กล้ามเนื้อรอบๆ จึงมีการเกร็งตัว และส่งผลให้ปวดหัวตื้อๆ ทุกวัน
โรคปวดศีรษะจากความเครียดพบได้ในคนทุกวัยและทุกเพศ แต่โดยส่วนใหญ่จะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 1.5-2 เท่า และพบในวัยรุ่นหรือวัยทำงานมากกว่าปกติ อย่างไรก็ดี อาการจะรุนแรงมากขึ้นในช่วงอายุ 20-50 ปี
ลักษณะอาการปวดหัวเนื่องจากความเครียดจะกินเวลาประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงต่อครั้ง บางคนอาจจะปวดหัวเป็นวัน หลายวัน หรือหลายเดือน ขึ้นอยู่กับสุขภาพและร่างกายของแต่ละบุคคล ซึ่งหากใครที่มีโรคปวดหัวไมเกรน แพนิก หรือซึมเศร้าอาการก็อาจจะรุนแรง
เครียดแล้วปวดหัวเกิดจากอะไร
ปวดหัวจากอาการเครียดเกิดจากการที่ร่างกายนั้นมีความเครียดสูง จนกระทั่งร่างกายทำปฏิกิริยาและหลั่งสารเคมีออกมา กล้ามเนื้อบริเวณต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะบ่า ไหล่ ท้ายทอย ขมับ ไปจนถึงรอบศีรษะเกร็งตัว
แน่นอนว่าเมื่อเกิดอาการเกร็งตัวแล้วก็จะส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวจากความเครียด ปวดตึงๆ ตื้อๆ แต่ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการเครียดจนปวดหัวเหล่านี้มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ปัจจัยกระตุ้นอาการปวดหัวจากความเครียด
อาการปวดหัวจากความเครียดนั้นเกิดได้จากปัจจัยกระตุ้นหลายๆ ปัจจัย ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและสุขภาพเดิมของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ ปัจจัยกระตุ้นมีดังต่อไปนี้
- ความเครียดสะสม
ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการเรียน การทำงาน การเข้าสังคม หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้เกิดอาการเครียด และหากปล่อยทิ้งเวลานาน ไม่จัดการกับความเครียดก็จะส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวเครียดสะสมได้
- ความหิว
เวลาที่หิว ไม่ว่าจะเพราะการลืมทานอาหาร อดอาหาร หรือไม่มีเวลาทานอาหาร จะส่งให้มีน้ำตาลหรือกลูโคสในร่างกายต่ำลงและไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ จนเกิดการปวดหัว หงุดหงิด ไม่มีสมาธิในการเรียนหรือทำงานได้ง่าย
- ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ อ่อนเพลีย
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายฟื้นฟูและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในวันต่อๆ ไป แต่หากร่างกายอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า อดนอนจะกระตุ้นให้เครียดแล้วปวดหัวได้
- แอลกอฮอล์และคาเฟอีน
เนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนนั้นจะเข้าไปกระตุ้นและกดสารต่าง ๆ ในร่างกาย ขยายและหดตัวของหลอดเลือด กระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวได้
- สูบบุหรี่
นิโคติน เป็นสารที่อยู่ในบุหรี่ ออกฤทธิ์ในการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลเสียต่อระบบร่างกาย ตลอดจนกระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรน ปวดศีรษะจากความเครียด ตลอดจนอาการปวดหัวคลัสเตอร์
- ปัญหาทางด้านจิตใจ
ไม่ว่าจะเป็นภาวะวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า ภาวะตื่นตระหนก ก็ล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นการปวดหัว เนื่องจากร่างกายนั้นจะมีการผลิตสารประเภทหนึ่งออกมาและส่งผลต่อการทำงานรวมถึงความเครียดแล้วปวดหัวได้
ปวดหัวจากความเครียดมีอาการอย่างไร
อย่างที่ทราบกันดีว่าเครียดมากจนปวดหัว จะมีลักษณะอาการทั่วไป คือ ปวดหัวแบบตึงตัว มึนหัว รู้สึกเหมือนถูกดหรือบีบรัดตั้งแต่บริเวณบ่า ท้ายทอย หัวไหล่ ไปจนถึงขมับ และรอบหัว โดยบางครั้งอาจจะปวดหัวข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้
อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวจากความเครียดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท แต่ละประเภทมีอาการแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
1. ปวดหัวจากความเครียดเป็นพักๆ
อาการปวดศีรษะจากความเครียด มีลักษณะอาการตามอาการทั่วไป เพียงแต่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ 30 นาทีไปจนถึงระยะเวลายาวนานเป็นสัปดาห์ ซึ่งวิธีสังเกตลักษณะอาการปวดหัวเพราะเครียดประเภทนี้คือ จะเกิดอาการขึ้นอย่างน้อย 15 วันต่อเดือน อย่างน้อย 3 เดือน
อาการปวดหัวจากความเครียดเป็นพักๆ ถ้าปล่อยทิ้งไว้หรือรักษาไม่ทันจะส่งผลให้เป็นอาการระยะยาวหรือเรื้อรังได้ในที่สุด
2. ปวดหัวจากความเครียดแบบเรื้อรัง
จากระยะเวลาในการเกิด 30 นาที จะเปลี่ยนไปยาวนานถึงหลายชั่วโมง โดยอาการจะเกิดต่อเนื่องในทุกๆ วัน เป็นเวลามากกว่า 15 วันขึ้นไปและยาวนานจนถึง 3 เดือน
หากพบว่าตนเองเข้าสู่อาการปวดหัวจากความเครียดประเภทเรื้อรังแล้ว ควรรีบเข้ารับการรักษา ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อไม่ให้อาการรุนแรงหรือหนักขึ้นกว่าเดิม
เปรียบเทียบปวดหัวจากความเครียดกับโรคไมเกรน
เนื่องจากอาการปวดหัวมีหลายรูปแบบ เช่น ปวดหัวไมเกรน ปวดหัวจากความเครียด หรือปวดหัวข้างขวา หลาย ๆ คนจึงอาจจะเกิดความสงสัยและสับสนว่าแล้วอาการต่างกันอย่างไร วันนี้เราจึงรวบรวมคำตอบมาให้แล้ว
ปวดหัวจากความเครียด
ดังที่กล่าวมาในข้างต้น อาการปวดหัวจากความเครียดเกิดจากการที่ร่างกายมีความเครียดสูง จนหลั่งสารเคมีออกมา ซึ่งปัจจัยที่กระตุ้นก็มีหลายแบบ เช่น ความเครียด การพักผ่อนที่ไม่พอ การสูบบุหรี่จัด เป็นต้น
ลักษณะอาการคือ ปวดเหมือนถูกรัดหรือบีบบริเวณหัว บางครั้งจะปวดตั้งแต่บริเวณไหล่ บ่า ท้ายทอย ขมับ ไปจนถึงรอบหัว ทำให้มีอาการปวดหัวตื้อๆ ทุกวัน
วิธีป้องกันและรักษาสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการปรับพฤติกรรมของตนเอง ไปจนถึงการปรึกษาและรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์
โรคไมเกรน
โรคไมเกรน เกิดจากหลากหลายปัจจัย เช่น สารเคมีในสมองไม่เท่ากัน การขยายและหดตัวของหลอดเลือดที่ผิดปกติ ไปจนการเกิดจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเพราะอากาศร้อน นอนไม่พอ รวมถึงเป็นประจำเดือนแล้วปวดหัวก็สามารถกระตุ้นให้ปวดได้
ลักษณะอาการปวดที่พบคือ ปวดหัวข้างซ้ายข้างเดียว ปวดหัวตามจุดต่างๆ ปวดตุ้บๆ หรือบางครั้งก็ปวดจี๊ดๆ รวมถึงมีอาการปวดหัวเรื้อรัง โดยในบางรายพบว่ามีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เห็นแสงวูบวาบ ไวต่อสิ่งเร้าทั้งแสง สี กลิ่น เสียง ตาลาย เวียนหัว เป็นต้น
วิธีป้องกันและรักษาสามารถทำได้ตั้งแต่วิธีแก้ปวดหัวไมเกรนเบื้องต้นง่ายๆ ทำได้ด้วยตนเอง เช่น
- ทานยาไมเกรน โดยปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- การรักษาวิธีธรรมชาติอย่างการกินสมุนไพรรักษาไมเกรน
วิธีการรักษาทางการแพทย์ เช่น การฉีดโบท็อกไมเกรน ที่นอกจากฉีดเพื่อเสริมความงามแล้วยังได้รับความนิยมในการฉีดแก้ปวดอีกด้วย เนื่องจากปลอดภัย และผลลัพธ์อยู่ได้นาน
เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์
ตามปกติแล้ว อาการปวดหัวเพียงกินยาแล้วพักผ่อนก็จะดีขึ้นได้ แต่หากพบว่ามีอาการปวดหัวจากความเครียดด้วยลักษณะดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
- เครียดจนปวดหัว และต้องใช้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทามากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์
- รูปแบบการปวดหัวต่างไปจากเดิม เช่น ปวดนานขึ้น ปวดถี่ขึ้น ปวดกระบอกตาแทนจากเดิมที่ปวดบริเวณขมับ เป็นต้น เนื่องจากอาจเกิดจากโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้
- เมื่อมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดหัวอย่างกะทันหัน ปวดหัวพร้อมกับมีไข้ขึ้นสูง คอแข็ง เริ่มมีอาการสับสนทางจิต ชัก ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน แขนขาอ่อนแรง ชา เวียนหัว
- ประสิทธิภาพในการพูดต่ำลง
- ปวดหัวหลังได้ประสบอุบัติเหตุ จนทำให้เกิดอาการปวดรุนแรง
การวินิจฉัยอาการปวดหัวจากความเครียด
การวินิจฉัยอาการปวดหัวจากความเครียดจะเริ่มจากวิธีทั่วๆ ไปคือ ซักประวัติส่วนตัวและประวัติการรักษา การแพ้ยา ความรุนแรงและระดับของอาการ ตลอดจนการพฤติกรรมการใช้ชีวิต แต่หากมีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้น อาจจะต้องวินิจฉัยอย่างละเอียดด้วยวิธีดังต่อไปนี้
การตรวจเลือด
การตรวจเลือดจะทำการตรวจเพื่อหาความออกซิเจนในร่างกาย หากออกซิเจนน้ยอจะส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวได้ วัดความสมบูรณ์ของเลือดในร่างกาย ตลอดจนตรวจหาสารเคมีในเลือด เพื่อหาความผิดปกติ
การตรวจเอกซเรย์ (X-ray)
หากมีอาการปวดหัวจากความเครียด อาจจะตรวจวินิจฉัยโรคหรือข้อบกพร่องด้วยการตรวจเอกซเรย์ จะทำให้เห็นภาพด้านในร่างกายอย่างชัดเจน ซึ่งหากมีปัจจัยทางโรคที่ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวก็จะตรวจพบและรักษาได้อย่างถูกต้อง
การตรวจ MRI
เมื่อมีปวดหัวเพราะเครียดที่รุนแรงและมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย อาจะเกิดได้จากโรคภัยที่ร้ายแรง ดังนั้นจึงอาจจะต้องใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สำหรับตรวจหาความผิดปกติของร่างกายอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุและการอักเสบต่าง ๆ
การตรวจ CT Scan
การตรวจ CT Scan จะใช้สำหรับตรวจหาความผิดปกติในร่างกายและวินิจฉัยโรคต่างๆ โดยภาพจะออกมาเป็นแนวนอน 3 มิติ แสดงรายละเอียดเอียดชัดเจน ผลลัพธ์แม่นยำ ในขณะเดียวกันก็ปลอดภัยต่อผู้เข้ารับการตรวจชัดเจนกว่าการตรวจ X-ray มาตรฐาน
วิธีแก้อาการปวดหัวจากความเครียด
เมื่อพบว่าตนเองมีอาการปวดหัวจากความเครียดก็สามารถใช้วิธีการแก้ไขอาการได้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้
1. การใช้ยาบรรเทาอาการปวด
ตามปกติแล้ว เพียงแค่เลือกใช้ยาแก้ปวดหัวจำพวกยาสามามัญประจำบ้าน เช่น แอสไพริน พาราเซตามอล ก็จะช่วยบรรเทาอาการได้ แต่หากใครพบว่ามีอาการปวดไมเกรนร่วมด้วย อาจจะทานกลุ่ม ibuprofen ทานยากลุ่ม ergotamine ตลอดจนการทานยากลุ่ม triptan ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
2. การประคบเย็นแก้อาการปวด
เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น ผ้าห่อน้ำแข็ง หรือผ้าเย็นมาประคบบริเวณที่ปวด ตรงขมับ ต้นคอ ท้ายทอย บ่า ก็จะช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานได้ดี ร่างกายผ่อนคลายและอุณหภูมิต่ำลง แต่หากใครจะใช้การประคบร้อนก็ช่วยลดอาการปวดหัวจากอาการเครียดได้เช่นกัน
3. การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
วิธีง่ายๆ แต่ได้ผล เพียงแค่ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตนเอง เช่น การเลือกจิบน้ำอุ่น เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ การนอนพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ไม่นอนมากหรือน้อยเกินไป การทำจิตใจให้สงบ หากิจกรรมยามว่างทำเพื่อลดอาการเครียดมากจนปวดหัว
4. การรักษาด้วย TMS
TMS หรือ การกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะใช้รักษาอาการปวดหัวจากกล้ามเนื้อตึงตัว เพียงใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามาวางบริเวณที่ปวด 10-15 นาที อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือตามดุลยพินิจของแพทย์ อาการปวดหัวเนื่องจากความเครียดก็จะดีขึ้นได้
แนวทางการป้องกันการปวดหัวจากความเครียด
เพื่อป้องกันไม่ให้ต้องเผชิญกับอาการปวดหัวจากความเครียด สามารถใช้แนวทางการป้องกันการปวดหัว ดังต่อไปนี้
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและให้กล้ามเนื้อคลายตัว โดยอาจจะออกกำลังกายง่าย ๆ เช่น โยคะแก้ปวดหัว ฮูลาฮูป เดินเบา ๆ เป็นต้น
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นไมเกรน เช่น ไวน์ เนื้อสัตว์แปรรูป เป็นต้น แต่เน้นทานผัก ผลไม้ ตลอดจนเครื่องดื่มแก้ปวดหัวชนิดต่าง ๆ แทน
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เนื่องจากจะส่งผลให้สุขภาพร่างกายย่ำแย่ลงแล้ว ยังกระตุ้นให้ปวดหัวจากอาการเครียดด้วย
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและนอนให้เป็นเวลา เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขณะตื่น
- หากิจกรรมที่ลดความเครียดหรืองานอดิเรกทำ เช่น การนั่งสมาธิ การวาดรูป การร้องเพลง การพบปะกับเพื่อน ๆ เป็นต้น
ข้อสรุป
เนื่องจากสภาพแวดล้อม สังคม ตลอดจนปัจจัยทางกายภาพและปัจจัยภายนอก ก็สามารถส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวจากความเครียดได้ทั้งสิ้น ดังนั้นจึงควรปรับพฤติกรรมตนเอง หากมีอาการก็ควรรักษาอย่างถูกวิธี
หนึ่งในวิธีรักษาไมเกรนและอาการปวดหัวจากความเครียดได้คือ การฉีดโบท็อกไมเกรน ซึ่งสามารถแอดไลน์ @ayaclinic หรือโทร 090–970-0447 เพื่อปรึกษา เข้าตรวจไมเกรนและระดับการปวดหัว ตลอดจนนัดวันรักษากับ BTX Migraine Center ศูนย์รักษาไมเกรนเฉพาะทางที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลได้ทันที
เอกสารอ้างอิง
Arefa Cassoobhoy. (2020). Tension Headaches. Retrieve from https://www.webmd.com/migraines-headaches/tension-headaches
Johns Hopskins Medicine. (n.d.). Tension Headaches. Retrieve from https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-and-diseases/headache/tension-headaches
Mayo Clinic. (n.d.). Tension headache. Retrieve from https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/tension-headache/symptoms-causes/syc-20353977