10 ท่าโยคะแก้ปวดหัว ทางเลือกแก้ไมเกรน ทำง่ายๆได้ที่บ้าน
การออกกำลังกายเป็นวิธีแก้ปวดหัวไมเกรนเบื้องต้น ช่วยสร้างเสริมสุขภาพให้ดีและแข็งแรงได้ง่ายๆ โดยเฉพาะการออกกำลังกายด้วยโยคะแก้ปวดหัวไมเกรน ที่เป็นวิธีบรรเทาอาการง่ายๆ สามารถทำตามได้ที่บ้าน
ทั้งนี้ โยคะแก้ปวดไมเกรนจะต้องทำอย่างไร ช่วยลดอาการปวดหัวข้างเดียวหรือปวดตุบๆ ได้อย่างไร และต้องระวังเรื่องใดบ้าง บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลที่ต้องรู้เกี่ยวกับโยคะแก้อาการปวดหัวมาฝากแล้วค่ะ
สารบัญบทความ
- โยคะแก้ปวดหัว
- โยคะแก้อาการปวดหัวได้อย่างไร
- 10 ท่าโยคะแก้ปวดหัว
- คำแนะนำสำหรับการฝึกโยคะแก้ปวดหัวไมเกรน
- ข้อควรระวังในการเล่นโยคะแก้ปวดหัว
- แนวทางอื่นในการรักษาอาการปวดหัวไมเกรน
- วิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหัว
- ข้อสรุป
โยคะแก้ปวดหัว
คนส่วนใหญ่มักจะต้องเผชิญกับปัญหากวนใจจากอาการปวดหัว ซึ่งอาจจะเกิดจากสาเหตุต่างๆ แตกต่างกันออกไป เช่น ปวดหัวจากความเครียด ปวดเรื้อรัง ปวดจากออฟฟิศซินโดรม เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดี ยังมีวิธีแก้ปวดหัวหลากหลายแบบตามแต่ละสาเหตุและความรุนแรง
หนึ่งในวิธีแก้คือ การเล่นโยคะแก้ปวดหัว ซึ่งเป็นการออกกำลังกายง่ายๆ ที่ไม่ต้องใช้แรงหรือโลดโผน เพียงแต่ต้องยืดหยุ่นกล้ามเนื้อในร่างกายหรือยืดเส้นยืดสาย ซึ่งในกรณีนี้อาจจะต้องใช้การฝึกฝนหรือใช้เวลาเพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและลดการเกร็งตัว
โยคะแก้อาการปวดหัวได้อย่างไร
หลายๆ คนอาจจะเกิดความสงสัยว่าอาการปวดหัวข้างซ้าย ขวา ปวดตุบๆ อาการเวียนหัว คลื่นไส้ หรืออาการปวดหัวไมเกรนได้ด้วยโยคะแก้ปวดหัวไมเกรนได้จริงหรือ คำตอบคือ การออกกำลังกายด้วยท่าโยคะแก้ปวดหัว สามารถลดความรุนแรงและความถี่ของการเกิดไมเกรนได้จริง
ทั้งนี้ เป็นเพราะโยคะแก้อาการปวดหัวเป็นศาสตร์ของการออกกำลังกายที่ช่วยทั้งเรื่องกายภาพและจิตใจ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ในสมัยอินเดีย โดยในช่วงนั้นจะเริ่มใช้โยคะแก้ปวดหัวสำหรับฝึกทำสมาธิ กำหนดลมหายใจ ช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน โดยร่างกายและกล้ามเนื้อจะตึงตัว ส่งผลให้ปวดหัวท้ายทอย ปวดบริเวณหน้าผาก คอ ไหล่ หรือเส้นคอตึงปวดหัวได้ ดังนั้น ท่าบริหารแก้ปวดไมเกรนจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยบรรเทาอาการได้
10 ท่าโยคะแก้ปวดหัว
เมื่อทราบว่าโยคะแก้ปวดหัวไมเกรนได้อย่างไรแล้ว อาจจะเริ่มศึกษาและลองทำท่าโยคะแก้ปวดหัวง่ายๆ ได้ที่บ้าน 10 ท่า ก็จะสามารถลดอาการได้ ดังนี้
1. ท่ายืนก้มจับเท้า หรือแตะพื้น (Big Toe pose)
การทำท่าบริหารปวดหัวง่ายๆ เริ่มที่ท่ายืนก้มจับเท้า หรือแตะพื้น โดยมีขั้นตอนคือ ยืนขาตรงแนบชิด จากนั้นให้ค่อยๆ ก้มตัวลงจนสุด นำมามาจับเท้าหรือแตะพื้นค้างไว้ 10 วินาที หรือหากใครที่เชี่ยวชาญอาจจะเพิ่มระยะเวลาเป็น 20-30 วินาที
ท่านี้เป็นท่าบริหารปวดหัวที่เห็นผลได้จริง โดยจะเน้นยืดกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ ลดอาการปวดบ่า คอ ไหล่ได้เป็นอย่างดี
2. ท่าสุนัขคว่ำหน้า (Downward Facing Dog pose)
ท่าที่ 2 คือ ท่าสุนัขคว่ำหน้า เพียงแค่ค่อยๆ ก้มหน้า ยืดแขนให้สุดก่อนจะสัมผัสบริเวณพื้น จากนั้นให้ค้างอยู่ในท่าโค้งหรือท่าสุนัขคว่ำหน้าไว้ประมาณ 10 วินาที จากนั้นให้เพิ่มเลาขึ้นเรื่อยๆ แต่ท่านี้อาจจะต้องขยับตัวอย่างช้าๆ เพื่อป้องกันอาการหน้ามืด เวียนหัว หรือตาลาย
ท่าโยคะแก้ปวดหัวจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณแขนและขายืดหยุ่นและคลายตัว ตลอดจนส่งผลให้เลือดหรือระบบไหนเวียนโลหิตทำงานได้เป็นอย่างดี ลดอาการปวดหัวเรื้อรังได้
3. ท่าสุนัขเงยหน้า (Upward-Facing Dog Pose)
ท่าโยคะแก้ปวดหัวง่ายๆ ท่าที่ 3 คือ ท่าสุนัขเงยหน้า โดยท่านี้จะมีความใกล้เคียงกับท่าในข้างต้น เพียงแต่จะต้องปรับทิศทาง ให้นอนคว่ำบนพื้น มือทั้งสองข้างวางไปที่หน้าลำตัว ขาด้านหลังเหยียดตรง ใช้มือดันลำตัวขึ้น โดยมีปลายเท้าช่วยพยุงตัวโดยไม่ให้ขาแตะพื้น จากนั้นให้เงหยน้าขึ้น
ท่าโยคะแก้ปวดหัวท่านี้หากทำค้างไว้ 20-30 วินาทีก็จะช่วยบรรเทาความเครียด ลดอาการเส้นคอตึงปวดหัว เนื่องจากกล้ามเนื้อด้านหลัง แขน และขาคลายตัว
4. ท่าโลมา (Dolphin pose)
ท่าโยคะแก้ปวดหัวไมเกรนท่าต่อมาคือ ท่าโลมา โดยท่านี้จะค้ลายกับท่าสุนัขคว่ำหน้า การเพิ่มความพิเศษคือ ให้แนบแขนท่อนกับพื้นให้คล้ายกับปากของโลมา
ท่านี้จะทำให้อวัยวะและส่วนต่างๆ ของร่างกายมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง ลดอาการปวดหัว เพิ่มสมาธิ เพียงแค่ทำท่านี้ค้างท่านี้ไว้ 10-30 วินาที ตามความเชี่ยวชาญ
5. ท่าหัวถึงเข่า (Head to Knee Pose)
ท่าหัวถึงเข่าสามารถทำตามได้ง่ายๆ โดยให้เริ่มจากการนั่งเหยียดขาตรงไปด้านหน้า โดยขาชิดกับเสื่อ ไม่ยกลอย จากนั้นให้เริ่มพับขาข้างหนึ่งเข้าหาตัวเอง โดยอาจจะเริ่มจากซ้ายหรือขวาได้ตามความถนัด แต่ให้ฝ่าเท้าด้านที่ไม่ได้เหยียดชิเกับต้นขาข้างที่เหยียด จากนั้นค่อยๆ ยกมือ 2 ข้างขึ้นเหนือหัวและก้มตัวลงมาชิดกับชา ค้างท่านี้ไว้ประมาณ 10 วินาทีหรือมากกว่านั้น ก่อนจะสลับทำอีกข้างหนึ่ง
ท่าโยคะแก้ปวดหัวนี้จะช่วยยืดกล้ามเนื้อบริเวณขา หลัง และต้นขาเป็นพิเศษ ซึ่งหกใครที่กล้ามเนื้อตึงหรือปวดหัวจากอาการออฟฟิศซินโดรม ท่าหัวถึงเข่าก็สามารถช่วยบรรเทาได้
6. ท่าเด็กหมอบ (Child’s Pose)
ท่าต่อมาคือ ท่าเด็กหมอบ โดยเริ่มจากการที่นั่งบนส้นเท้าและให้เท้าชิดกัน จากนั้นก้มตัวลงให้หน้าผากติดกับพื้น ลำคอตั้งตรง ก้นยังอยู่บนส้นเท้า จากนั้นค่อยๆ เหยียดแขนสองข้างขึ้นไปเหนือหัว กดลงมาแนบกับพื้น จากนั้นเหยียดไปที่ปลายเท้า ตามลำดับ โดยค้างท่าไว้ 10-30 วินาที
โยคะท่าเด็กเป็นท่าโยคะแก้ปวดหัวข้างขวาหรือทั้งสองข้างได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยยืดกล้ามเนื้อบริเวณหลัง สะโพก และต้นขา แต่สำหรับท่านี้ยังมีข้อยกเว้นคือ สตรีมีครรภ์หรือผู้ที่กำลังมีอาการท้องร่วงควรหลีกเลี่ยงไปก่อน
7. ท่าสะพานโค้ง (Bridge pose)
หากใครนึกภาพไม่ออกให้ลองนึกภาพสะพานข้ามแม่น้ำที่มีความโค้งนอนหงายกับะพื้น แขนทั้งสองข้างชิดลำตัว จากนั้นค่อยๆ ยกเอวขึ้นอย่างช้าๆ ในระดับที่ไม่สูงหรือต่ำเกินไป ค้างไว้ 10-30 นาทีก็ให้ทำซ้ำอีกครั้ง
ท่าโยคะแก้อาการปวดหัวท่านี้จะช่วยเรื่องระบบไหลเวียนโลหิตและลดอาการปวดหัวเรื้อรังหรือปวดหัวในรูปแบบต่างๆ ได้ง่ายๆ ในเวลาอันสั้น
8. ท่ายืนก้มตัว (Standing Forward Bend)
ท่าที่ 8 คือ ท่ายืนก้มตัว เพียงแค่ยืน ส้นเท้าและฝ่าเท้าแยกจากกันเท่ากับช่วงไหล่ หายใจออกก้มตัวลงฝ่ามือลงตรงพื้น นิ้วเท้า หรือหลังเท้า ค้างไว้ประมาณ 30 วินาทีถึง 1 นาที
ท่านี้จะช่วยลดอาการปวดหัวจากความเครียดและอาการซึมเศร้าได้
9. ท่านักรบ (Warrior Pose)
ท่านักรบเป็นโยคะแก้ปวดหัวไมเกรน โดยเริ่มจากการยืนตรง ปลายเท้าชิดกัน ก้าวขาข้างหนึ่งไปทางด้านหน้า ยกแขนสองข้างโดยมือต้องแนบหู จากนั้นให้งอเข่าขวา บิดเท้าซ้ายไปตามด้านหน้า ขาอีกค้างควรจะงอในลักษณะมุมฉากหรือมุมป้าน ส่วนขาอีกข้างที่อยู่ด้านหลังจะต้องเหยียดตรง จากนั้นให้ทำซ้ำอีกครั้ง
ท่านักรบเป็นท่าโยคะแก้ปวดหัวที่ช่วยยืดกล้ามเนื้อบริเวณต่างๆ โดยจะเน้นยืดเหยียดเส้นเอ็น ไหล่ หลัง ตลอดจนบริเวณข้อเท้า ท่านี้นอกจากจะลดอาการปวดหัวคลัสเตอร์ ปวดแบบต่างๆ แล้วยังช่วยลดไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ด้วย
10. ท่าศพ (Corpse pose)
ฟังชื่อท่าแล้วหลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่าน่ากลัว แต่จริงๆ แล้วท่าบริหารแก้ปวดไมเกรนท่านี้ทำได้ง่ายที่สุดและไม่น่ากลัว เพียงแค่นอนหงายกับพื้น ปลอ่ยตัวตามสบาย ไม่ต้องเกร็งมือหรือเท้า แต่เน้นกำหนดลมหายใจเข้าออกลึกๆ แทน 3-5 นาที
ท่านี้จะช่วยปรับร่างกายให้คุ้นชินคล้ายๆ กับการคูลดาวน์ เนื่องจากในการทำท่าบริหารแก้ปวดไมเกรนช่วงแรกนั้นมีการยืดกล้ามเนื้อและปรับระบบไหลเวียนโลหิตกันไปแล้ว
คำแนะนำสำหรับการฝึกโยคะแก้ปวดหัวไมเกรน
สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานการเล่นโยคะอาจจะสามารถทำท่าบริหารแก้ปวดไมเกรนได้ง่ายๆ แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่มีพื้นฐานหรือไม่เคยเล่นโยคะแก้ปวดหัวมาก่อนอาจจะต้องคำนึงถึงรายละเอียดต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ควรใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม คล่องตัว และไม่อึดอัดจนเกินไป
- ควรถอดเครื่องประดับหรือจัดทรงผมให้เตรียมพร้อมต่อการทำท่าบริหารปวดหัวในรูปแบบต่างๆ
เช่น การรวบผม มัดจุก การถอดสร้อยคอ การถอดแหวน เป็นต้น
- ควรทำธุระส่วนตัวมห้เสร็จเรียบร้อยก่อน ไม่ว่าจะเป็นการอุจจาระหรือปัสสาวะ
เพื่อความสะดวกสบายและความคล่องตัวขณะฝึก
- งดทานอาการมื้อหนักหรืออาหารว่างก่อนออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง 30 นาที
เพื่อป้องกันอาการอาเจียน อึดอัด หรือแน่นท้องขณะเล่นโยคะแก้ปวดหัวไมเกรน
- ควรกำหนดลมหายใจเข้าออกทางจมูกเพียงอย่างเดียวและมุ่งมั่นในการตั้งสมาธิ
- ควรฝึกท่าโยคะแก้ปวดหัวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความยืดหยุ่นและผลลัพธ์ระยะยาว
- ควรพักจากการออกกำลังกายด้วยท่าศพ หลังจากออกครบทุกท่าแล้ว เพื่อเป็นการพักร่างกาย
- หากขณะที่ทำท่าบริหารโนคะเหล่านี้แล้วมีอาการเจ็บปวด ไม่ควรฝืน
ข้อควรระวังในการเล่นโยคะแก้ปวดหัว
อย่างไรก็ดี นอกจากคพแนะนำในข้างต้นแล้ว ยังควรระมัดระวังในการเล่นโยคะแก้ปวดหัวไมเกรนดังต่อไปนี้ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง
- การกำหนดลมหายใจ
ควรกำหนดลมหายใจเข้าออกอย่างถูกวิธี และไม่ควรหายใจเข้าออกทางปากแทนจมูก เพราะจส่งผลเสียต่อการหายใจระหว่างการเล่นท่าโยคะได้
- การหักโหมหรือการออกแรงมากเกินไป
การโยคะเน้นการเคลื่อนไหสหรือการยืดหยุ่นร่างกายอย่างถูกวิธี ซึ่งหากรู้สึกว่าเริ่มเล่นโยคะแก้ปวดหัวหักโหมหรืออกแรงมากเกินไป จะส่งผลต่อการบาดเจ็บของอวัยวะและกล้ามเนื้อต่างๆ ของร่างกายได้
- การปล่อยใจไม่ให้ฟุ้งซ่าน
ขณะที่ฝึกโยคะแก้ปวดไมเกรนไม่ควรคิดมากหรือฟุ้งซ่าน แต่ควรตั้งใจและตั้งสมาธิให้แน่วแน่ เพื่อฝห้การเล่นท่าต่างๆ ผ่านไปได้ด้วยดีและส่งผลดีต่อร่างกายสูงสุด
- การคลายเส้น
หลายๆ คนคิดว่าดารเล่นโยคะ เมื่อเล่นจบแล้วอาจจะไม่ต้องคูลดาวน์หรือคลายเส้น แต่ในความเป็นจริงแล้วจะต้องคลายเส้นเสมอ เพื่อลดการบาดเจ็บหรือการปวดเมื่อยที่จะเกิดขึ้นตามมา
- การกินอาหารมื้อหนักก่อนเล่นโยคะ
การกินอาหารมื้อหนักหรือการกินอาหารจนอื่มเกินไป จะส่งผลให้ร่างกายเกิดความอึดอัด แน่นเฟ้อได้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการทำท่าโยคะแก้ปวดหัวในรูปแบบต่างๆ ได้
แนวทางอื่นในการรักษาอาการปวดหัวไมเกรน
นอกจากการเล่นโยคะแก้ปวดหัวแล้ว ยังมีวิธีการรักษาอาการปวดหัวไมเกรนด้วยวิธีอื่นๆ ที่น่าสนใจและเห็นบรรเทาอาการได้เป็นอย่างดี ดังนี้
1. ประคบเย็น
การประคบเย็นจะเป็นวิธีแก้ปวดกระบอกตาหรือแก้ปวดง่ายๆ โดยเฉพาะวิธีแก้ปวดหัวแบบเฉียบพลัน โดยอาจจะใช้ถุงน้ำแข็ง ถุงเย็น หรือผ้าเย็น นำผ้าขนหนูไปชุบน้ำเย็นและบิดหมาด ๆ ประคบประมาณ 10-15 นาที ก็จะช่วยให้หลอดเลือดกลับมาทำงานปกติ บรรเทาอาการปวดได้
2. นวดศรีษะแก้ปวดไมเกรน
วิธีนวดแก้ปวดไมเกรนสามารถทำได้ง่ายๆ โดยกดตามจุดหรือตำแหน่งต่างๆ หรือหากใครที่มีอาการปวดหัวคิ้ว จะนวดบริเวณขมับ หน้าผาก ต้นคอ หรือไล่ ก็จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ที่สำคัญหากใครที่อยากเพิ่มความผ่อนคลายอาจจะใช้น้ำมันหอมระเหยในการนวดบรรเทาอาการปวดร่วมได้
3. ใช้ยาแก้ปวดหัว
หากมีอาการปวดหัวไมเกรนแบบฉับพลัน อาจจะใช้ยาไมเกรนในกลุ่มต่างๆ เพื่อช่วยลดอาการปวดได้อย่างเร่งด่วน เช่น ยาแก้ปวดแก้อักเสบ ยาแก้ปวดไมเกรนกลุ่ม Triptans ยาแก้ปวดกลุ่มพาราเซตามอล ยาแก้ปวดไมเกรนกลุ่มเออร์กอต Ergotamine ตลอดจนยาแก้ปวดกลุ่ม Ibuprofen แต่ทั้งนี้ การกินยาจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนสเมอ
4. ฝังเข็มเฉพาะจุด
การฝังเข็มเฉพาะจุดหรือฝังเข็มไมเกรน จะฝังเข็มแท่งเล็กๆ ตามจุดต่างๆ ของร่างกาย โดยจะเน้นฝังลงบริเวณจุดที่มีพลัง เนื่องจากการฝังเข็มจะช่วยปรับสมดุล ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ตลอจนช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดี แต่ทั้งนี้จะพิจารณาจากโรคประจำตัว อายุ และอื่นๆ เพื่อป้องกันอาการหรือโรคแทรกซ้อน
5. ฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน
นอกจากการเล่นโยคะแก้ปวดหัว การฉีดโบท็อกไมเกรนก็เป็นหนึ่งในวิธีรักษาอาการปวดหัวง่ายๆ และปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพียงแค่นำโบท็อกชนิดเอ มาฉีดก็จะทำให้กล้ามเนื้อมีความผ่อนคลาย ลดระดับความรุนแรงและความถี่ในการปวดหัวไมเกรน ซึ่งจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด ภายในระยะเวลาเพียง 3-5 วัน และยังเห็นผลในระยะยาว 4-6 เดือน ในขณะเดียวกันผลข้างเคียงยังน้อยอีกด้วย
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหัว
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ต้องออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะแก้ปวดหัวหรือหาวิธีรักษาแบบอื่นๆ อาจจะเริ่มตั้งแต่การป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอาการ โดยสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ โดยควรนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และควรเข้านอนในเวลาเดียวกันเป็นประจำสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นไมเกรน และเน้นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานวิตามิน ไมเกรนหรืออาการปวดก็จะลดลง โดยเฉพาะวิตามินวิตามินบี 1, บี 6 และบี 12
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอกจากการออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะแก้ปวดหัวไมเกรนแล้ว การออกกำลังกายด้วยวิธีอื่นๆ ก็จะช่วยสร้างให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง ตลอดจนลดความเครียดได้
- หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ไม่ว่าจะเป็นกลิ่น แสง สี เสียง ความเครียด สภาพแวดล้อมหรือการทำงานหนัก
- การหากิจกรรมหรืองานอดิเรกทำ โดยอาจจะลดการทำงานหนักหรือการทำงานเป็นระยะเวลานาน แต่เน้นหากิจกรรมที่ชอบมาช่วยคลายเครียด ก็จะลดอาการตึงของกล้ามเนื้อและอาการปวดหัวได้
ข้อสรุป
อาการปวดหัวไมเกรนสามารถบรรเทาได้ด้วยการเล่นโยคะแก้ปวดหัวง่ายๆ ที่บ้าน แต่ทั้งนี้ก็จะต้องคำนึงถึงข้อควรระมัดระวังและคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญร่วมด้วย
อย่างไรก็ดี ยังมีวิธีรักษาอื่นๆ ที่น่าสนใจและปลอดภัยอย่าง การฉีดโบท็อกออฟฟิศซินโดรม ช่วยคลายกล้ามเนื้อ หรือการฉีดโบท็อกไมเกรนลดอาการปวดหัว ที่ปลอดภัยและทันสมัย ซึ่งหากใครสนใจเข้ารับการตรวจไมเกรน รักษาอาการ ตลอดจนต้องการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพียงแค่แอดไลน์ @ayaclinic หรือโทร 090–970-0447 เพื่อนัดวันกับทาง BTX Migraine Center หรือศูนย์รักษาไมเกรนเฉพาะทางก็สามารถจบปัญหากวนใจได้ทันที
เอกสารอ้างอิง
Hallie Levine. 2022. Yoga for Migraine. Retrieve from https://www.webmd.com/migraines-headaches/migraine-yoga